การขอคืนภาษีต้องทำอย่างไร?

ปกบทความการขอคืนภาษีต้องทำอย่างไร
icon รับทำบัญชี
icon ดูรีวิวจากลูกค้า
icon กระดานสอบถามปัญหาภาษี
icon ติดต่อ Line

สารบัญ

  1. เงินคืนภาษีคืออะไร?
  2. การขอคืนภาษีบุคคลธรรมดา
  3. การขอคืนภาษีนิติบุคคล
  4. การขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
  5. การขอคืนภาษีด้วยแบบ ค.10
  6. สรุป

เงินคืนภาษีคืออะไร?

          เงินคืนภาษี (Tax refund) เป็นเงินที่เรามีสิทธิ์ได้รับคืน เนื่องจากได้จ่ายชำระภาษีล่วงหน้าไปแล้ว มากกว่าเงินภาษีที่ต้องเสีย โดยปกติแล้วการที่จะได้สิทธิ์ขอคืนภาษีจะมีอยู่ 2 กรณีหลักๆคือ

  1. ในระหว่างปีผู้เสียภาษีได้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายเอาไว้ แล้วภาษีถูกหัก ณ ที่จ่ายทั้งหมดมีมูลค่ามากกว่า ภาษีที่จะต้องเสียตอนปลายปี จึงทำให้ผู้เสียภาษีมีสิทธิ์ขอคืนภาษีได้
  2. ในระหว่างปีผู้เสียภาษีได้เสียภาษีเงินได้ครึ่งปีเอาไว้ตามกฎหมาย แล้วภาษีครึ่งปีที่เสียไปนั้นมีมูลค่ามากกว่า ภาษีที่จะต้องเสียตอนปลายปี จึงทำให้ผู้เสียภาษีมีสิทธิ์ขอคืนภาษีได้

การขอคืนภาษีบุคคลธรรมดา

          โดยปกติแล้วในการยื่นแบบ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จะยื่นภาษีโดยใช้แบบ ภงด.90 หรือ ภงด.91 ซึ่งหากผู้เสียภาษีมีภาษีที่จ่ายไปล่วงหน้ามากกว่าภาษีที่คำนวณได้ตอนปลายปี ผู้เสียภาษีนั้นก็มีสิทธิ์ในการขอคืนภาษี ซึ่งวิธีหลักในการขอคืนภาษีจะเป็นการทำเรื่องขอคืนภาษีในแบบ ภงด.90 หรือ ภงด.91 เลย เนื่องจากในตัวแบบจะมีช่องให้กรอกและเซ็นตรง “คำร้องขอคืนเงินภาษี”

ภงด 90 By BMU
ภงด 91 By BMU

เมื่อทำเรื่องขอคืนภาษีในแบบไปแล้ว ผู้มีหน้าที่เสียภาษีควรต้องเตรียมเอกสารเหล่านี้ไว้ให้พร้อมเผื่อเจ้าหน้าที่สรรพากรเรียกตรวจ

  1. แบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 90/91)
  2. หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ)
  3. สำเนาสมุดบัญชีธนาคารหน้าแรกที่มีชื่อและเลขที่บัญชีของผู้ขอคืนภาษี  
  4. เอกสารแสดงสิทธิ์ลดหย่อนภาษี (ถ้ามี) เช่น ใบเสร็จรับเงินค่าเล่าเรียนบุตร, ใบเสร็จรับเงินค่าเบี้ยประกันชีวิต/สุขภาพ, ใบรับรองดอกเบี้ยเงินกู้ยืมจากธนาคาร, ใบเสร็จรับเงินการซื้อกองทุน RMF/SSF/ThaiESG, หลักฐานการบริจาค, ใบกำกับภาษี/ใบเสร็จรับเงิน “ช้อปดีมีคืน” เป็นต้น

การขอคืนภาษีนิติบุคคล

          โดยปกติแล้วในการยื่นแบบ ภาษีเงินได้นิติบุคคล จะยื่นภาษีโดยใช้แบบ ภงด.50 ซึ่งหากนิติบุคคลมีภาษีที่จ่ายไปล่วงหน้า (เช่นภาษีถูกหัก ณ ที่จ่าย / ภาษีเงินได้ครึ่งปี) มากกว่าภาษีที่คำนวณได้ตอนปลายปี นิติบุคคลนั้นก็มีสิทธิ์ในการขอคืนภาษี ซึ่งวิธีหลักในการขอคืนภาษีจะเป็นการทำเรื่องขอคืนภาษีในแบบ ภงด.50 เลย เนื่องจากในตัวแบบจะมีช่องให้กรอกและเซ็นตรง “คำร้องขอคืนเงินภาษี”

ภงด.50 By BMU

เมื่อทำเรื่องขอคืนภาษีในแบบไปแล้ว นิติบุคคลต้องเตรียมเอกสารเหล่านี้ไว้ให้พร้อมเพราะเจ้าหน้าที่สรรพากรจะเรียกตรวจอย่างแน่นอน

  1. งบทดลอง บัญชีแยกประเภท รายละเอียดประกอบงบ
  2. เอกสารประกอบการบันทึกบัญชีทั้งหมด
  3. แบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภงด.50)
  4. หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ)
  5. สำเนาสมุดบัญชีธนาคารหน้าแรกที่มีชื่อและเลขที่บัญชีของนิติบุคคล

การขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม

โดยปกติแล้วในการยื่นแบบ ภาษีมูลค่าเพิ่ม จะยื่นภาษีโดยใช้แบบ ภพ.30 ซึ่งหากนิติบุคคล/ผู้เสียภาษีมีภาษีซื้อมากกว่าภาษีขายในเดือนนั้นๆ นิติบุคคล/ผู้เสียภาษี สามารถเลือกได้ 2 แบบดังนี้

  1. นำภาษีซื้อที่มากกว่าภาษีขายไปขอเครดิตภาษีในเดือนถัดๆไป แทนที่จะขอคืนเป็นเงินสด
  2. นำภาษีซื้อที่มากกว่าภาษีขายไปขอคืนเป็นเงินสด

ซึ่งหากเลือกกรณีที่ 1 นำภาษีซื้อที่มากกว่าภาษีขายไปขอเครดิตภาษีในเดือนถัดๆไป ก็ให้กรอกแบบภาษีตามปกติ แต่หากเลือกกรณีที่ 2 นำภาษีซื้อที่มากกว่าภาษีขายไปขอคืนเป็นเงินสด ในแบบ ภพ.30 ก็ต้องลงลายมือชื่อ หรือกรอกข้อมูลตรงช่อง การขอคืนภาษี

ภพ30 by BMU

การขอคืนภาษีด้วยแบบ ค.10

แบบ ค.10 หรือ “คำร้องขอคืนเงินภาษีอากร” ใช้ในกรณีที่ผู้เสียภาษีต้องการขอคืนเงินภาษีที่ได้ชำระไว้เกินกว่าจำนวนที่ต้องเสียจริง แต่ไม่ได้กรอกคำร้องขอคืนภาษีในการยื่นแบบภาษีตามปกติ ซึ่งในแบบ ค.10 คำร้องขอคืนเงินภาษีอากร สามารถขอคืนภาษีได้ประเภทดังต่อไปนี้

  1. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
  2. ภาษีเงินได้นิติบุคคล
  3. ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม
  4. ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย
  5. ภาษีมูลค่าเพิ่ม
  6. ภาษีธุรกิจเฉพาะ
  7. อากรแสตมป์
  8. ภาษีการรับมรดก

โดยจะต้องมีการระบุถึงมูลเหตุที่ขอคืน ว่ามาจากมูลเหตุใดดังนี้

  1. ชำระไว้เกิน ผิดหรือซ้ำ
  2. ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้เกินหรือมีภาษีเกินเนื่องจากได้รับเครดิตภาษี
  3. ชำระหรือถูกหักภาษีอากรไว้โดยไม่มีหน้าที่ต้องเสีย
  4. ได้นำส่งภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย/นำส่งภาษีไว้ผิดหรือซ้ำ
ค.10 By BMU

ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม : ค.10 คำร้องขอคืนเงินภาษีอากร 

สรุป

          การขอคืนภาษีเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ ในบางธุรกิจบริการที่มีอัตรากำไรต่ำ (กำไรน้อย เสียภาษีน้อย แต่ถูกหัก ณ ที่จ่ายเอาไว้จากรายได้ค่าบริการ) บางทีภาษีที่จ่ายไปล่วงหน้า หรือที่ถูกหักเอาไว้ มีมูลค่าเป็นหลายแสน หรือเป็นหลักล้านบาท การขอคืนภาษีจากสรรพากรจึงเป็นทางออกที่ดี ที่กิจการจะได้รับเงินคืนกลับมาเพื่อนำมาใช้ในการหมุนเวียนทางธุรกิจ

แต่ก่อนที่คุณจะขอคืนภาษีก็ต้องมั่นใจด้วยว่าการทำบัญชีของกิจการถูกต้อง ใครสนใจบริการทางด้านทำบัญชีดูรายละเอียดได้ที่นี่ : รับทำบัญชี

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses cookies to offer you a better browsing experience. By browsing this website, you agree to our use of cookies.