สารบัญ
บทนำ :
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการยื่น ภงด 50 :
หลักการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล อธิบายตาม ภงด 50 :
ขั้นตอนการยื่น ภงด 50 :
ภงด 50 คืออะไร?
ภงด 50 คือแบบแสดงรายการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ประจำปี ซึ่งเกือบทุกๆนิติบุคคลจะต้องยื่นแบบ ภงด 50 เพื่อนำส่งภาษีให้แก่กรมสรรพากร หากมีกำไรที่ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี
ตามกฎหมายนิติบุคคลจะต้องยื่นแบบ ภงด 50 ปีละ 1 ครั้ง เพื่อสรุปยอดรายได้ ค่าใช้จ่าย กำไรทางภาษี และยอดภาษีที่ต้องชำระให้แก่สรรพากร
ท่านใดที่ยังสงสัยเกี่ยวกับเรื่องภาษีตัวนี้ มาอ่านบทความนี้กันก่อนนะ : ภาษีเงินได้นิติบุคคล สรุปความเข้าใจในหน้าเดียว
ความสำคัญของการยื่น ภงด 50
ตามที่ได้กล่าวไปแล้วว่า นิติบุคคลจะต้องยื่นแบบ ภงด 50 ปีละ 1 ครั้ง เพื่อสรุปยอดรายได้ ค่าใช้จ่าย กำไรทางภาษี และยอดภาษีที่ต้องชำระให้แก่สรรพากร เงินได้ที่รับเข้ามานี้รัฐบาลจะนำมาใช้ในการบริหารประเทศ เพื่อให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี
ความสำคัญอีกด้านหนึ่งเป็นต่อตัวนิติบุคคลเอง เนื่องจากการไม่ยื่น ภงด 50 นั้นมีบทลงโทษที่ต้องชำระเบี้ยปรับและเงินเพิ่มดังนี้
- ค่าปรับ : ค่าปรับแบบไม่เกิน 2,000 บาท + ค่าปรับงบการเงิน ไม่เกิน 2,000 บาท (รวมเป็นไม่เกิน 4,000 บาท)
- เงินเพิ่ม (กรณีมีภาษีต้องชำระ) ร้อยละ 5 ต่อเดือนหรือเศษของเดือน ของเงินภาษีที่ต้องเสีย
ใครบ้างที่ต้องยื่น ภงด 50?
โดยทั่วไปแล้ว นิติบุคคลที่ต้องยื่นแบบ ภงด 50 ก็จะมีดังต่อไปนี้
- บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ยกตัวอย่างเช่น ห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด เป็นต้น
- นิติบุคคลต่างประเทศที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย
- กิจการร่วมค้า เนื่องจากกิจการร่วมค้าถือเป็น บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร
กำหนดเวลาในการยื่น ภงด 50
นิติบุคคลจะต้องยื่น ภงด 50 ภายใน 150 วัน นับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี ซึ่งจะเห็นได้ว่าจุดนี้จะแตกต่างจาก ภงด 51 ที่กำหนดว่าจะต้องยื่นแบบภายใน 2 เดือน นับจากวันครึ่งรอบระยะเวลาบัญชี แต่หากเป็นเรื่องของ ภงด 50 จะกำหนดเป็นวันที่ 150 วัน วิธีในการนับวันครบกำหนดเวลาในการยื่นแบบเป็นดังนี้
- หากรอบบัญชี 31 ธันวาคม และปีนั้นเดือน กุมภาพันธ์ มี 28 วัน วันสุดท้ายในการยื่นแบบ ภงด 50 คือวันที่ 30 พฤษภาคม ของปีถัดไป หากยื่นผ่านระบบอินเตอร์เน็ตก็จะบวกเพิ่มได้อีก 8 วัน
- หากรอบบัญชี 31 ธันวาคม และปีนั้นเดือน กุมภาพันธ์ มี 29 วัน วันสุดท้ายในการยื่นแบบ ภงด 50 คือวันที่ 29 พฤษภาคม ของปีถัดไป หากยื่นผ่านระบบอินเตอร์เน็ตก็จะบวกเพิ่มได้อีก 8 วัน
ภงด 50 และ ภงด 51 แตกต่างกันอย่างไร
ความแตกต่างของแบบ ภงด 50 และ ภงด 51 คือแบบ ภงด 50 เป็นแบบยื่นภาษีเงินได้นิติบุคคลประจำปี แต่แบบ ภงด 51 เป็นแบบยื่นภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี
นอกจากนี้ รูปแบบและวิธีการในการคำนวณภาษีก็จะมีความแตกต่างกันในบางกรณี กล่าวคือ หากเป็นการยื่นแบบ ภงด 50 ตัวเลขที่จะนำมาใช้ในการคำนวณนั้นจะเป็นตัวเลขที่เกิดขึ้นจริงทั้งปี แต่หากเป็นการยื่นแบบ ภงด 51 ในบางกรณี (เช่น กรณี หจก. บจก. เป็นต้น) ตัวเลขที่จะนำมาใช้ในการคำนวณนั้นจะเป็นตัวเลขประมาณการทั้งปีแล้วนำมาหารสอง (ไม่ใช่ตัวเลขจริงแต่เป็นตัวเลขประมาณการ)
ใครที่ต้องการศึกษาวิธีการคำนวณ ภงด 51 สามารถอ่านได้ที่นี่ : ภงด51 คืออะไร และผู้ประกอบการควรระวังจุดไหนบ้าง
หลักการคำนวณภาษีใน ภงด 50
วิธีการคำนวณภาษีเพื่อยื่น ภงด 50 สามารถอธิบายขั้นตอนการคำนวณดังนี้
1.ขั้นแรกเราจะตั้งแถวตัวเลข รายได้ ค่าใช้จ่าย ต่างๆตามงบการเงิน ดังนี้
ตัวเลขทั้งหมดตามตารางข้างต้น จะเป็นตัวเลขทางบัญชี ซึ่งมาจากงบการเงินที่ผู้สอบบัญชีเซ็นรับรอง อย่างไรก็ตามในการคำนวณภาษีนั้นเราจะต้องใช้กำไรขาดทุนทางภาษีในการคำนวณ ดังนั้นจึงต้องมีการกระทบยอดรายการเพื่อปรับ กำไร (ขาดทุน) ทางบัญชี เพื่อให้เป็น กำไร (ขาดทุน) ทางภาษี
2.ขั้นที่สอง เราจะต้องกระทบยอดกำไรสุทธิทางบัญชี ให้เป็น กำไรสุทธิทางภาษี ตามสูตรดังนี้
เหตุผลที่ต้องมีการกระทบยอดตามขั้นตอนที่ 2 เนื่องจาก มีความแตกต่างกันในการรับรู้ รายได้ และ ค่าใช้จ่าย ระหว่างทางบัญชีและทางภาษี จึงต้องมีการกระทบยอดกำไรสุทธิทางบัญชีให้เป็นกำไรสุทธิทางภาษีนั่นเอง
ท่านใดต้องการทราบรายละเอียดในการกระทบยอดแต่ละตัวสามารถอ่านจากตรงนี้ได้ : วิธีกรอกแบบแสดงรายการภาษีเงินได้
ตัวอย่างการคำนวณภาษีใน ภงด 50
บริษัท BMU จำกัด มีกำไรทางบัญชี 3,000,000 บาท มีค่าใช้จ่ายหนี้สูญ (ค่าใช้จ่ายต้องห้าม) 10,000 บาท ค่ารับรองที่ไม่เข้าเกณฑ์ตามกฎหมาย (ค่าใช้จ่ายต้องห้าม) 5,000 บาท มีรายได้จากเงินปันผลของบริษัทที่ บริษัท BMU จำกัด ถือหุ้นเกินกว่า 25% (รายได้ที่ได้รับการยกเว้น) 2,000 บาท มีขาดทุนสุทธิทางภาษียกมาไม่เกิน 5 ปีจำนวน 3,000 บาท สามารถแสดงตัวอย่างการคำนวณภาษีได้ดังนี้
เมื่อได้กำไรสุทธิทางภาษีแล้วก็ให้นำมาคูณกับอัตราภาษี ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 กรณีคือ
กรณีที่เป็น SME :
กรณีที่เป็น Non SME :
หากเป็น Non SME ก็เอากำไรทางภาษีคูณอัตราภาษี 20% ได้เลยดังนี้ : 3,010,000 x 20% = 602,000 บาท
ท่านใดที่ยังสงสัยเกี่ยวกับเรื่องอัตราภาษี มาอ่านบทความนี้กันก่อนนะ : ภาษีเงินได้นิติบุคคล สรุปความเข้าใจในหน้าเดียว
วิธีการยื่นแบบ ภงด 50
ในปัจจุบันเราจะยื่น ภงด.50 ในรูปแบบกระดาษ หรือแบบออนไลน์ก็ได้ ตัวอย่างที่จะแสดงต่อไปนี้จะเป็นรูปแบบออนไลน์ เนื่องจากเป็นที่นิยมมากกว่า โดยมีขั้นตอนในการดำเนินการดังนี้
1.เข้าสู่ระบบ E-Filing โดยให้ใส่ Username และ Password ของนิติบุคคล
2.เลือกยื่นแบบ ภงด 50
3.เลือกรอบระยะเวลาบัญชี , สถานภาพของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล และลำดับการยื่นแบบ
4.ถัดมาให้เลือกสถานะการกรอก โดยแบ่งเป็น 3 กรณีดังนี้
- กรณีเป็นบริษัทที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ทั้งหมด(กรอกช่อง 1) : สำหรับกิจการที่ได้รับสิทธิยกเว้นภาษี BOI
- กรณีเป็นบริษัทที่ต้องเสียภาษีเงินได้ทั้งหมด(กรอกช่อง 2) : สำหรับกิจการที่ไม่ได้รับสิทธิยกเว้นภาษี BOI (Non BOI)
- กรณีเป็นบริษัทประกอบกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ และกิจการที่ต้องเสียภาษีเงินได้(กรอกช่อง 1 และ 2) : สำหรับบริษัทที่มีทั้งกิจการ BOI และ Non BOI
หลังจากนั้นให้เลือกรหัสกิจการที่เราประกอบอยู่ โดยใช้รหัสเดียวกับรหัส TSIC ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า แล้วกด ถัดไป
5.ถัดมาระบบจะให้เรากรอกข้อมูลตามงบการเงิน โดยให้กรอกข้อมูลดังนี้
- รายได้ตรงจากการประกอบกิจการ
- ต้นทุนขายหรือรายจ่ายเพื่อคำนวณกำไรขั้นต้น
- กำไร/ขาดทุนขั้นต้น
- รายได้อื่น
- รายจ่ายอื่น
- รายจ่ายในการขายและบริหาร
- กำไร/ขาดทุนสุทธิ
โดยข้อมูลในแต่ละส่วน ระบบจะให้กรอกข้อมูลตามงบทดลองตามที่ฝ่ายบัญชีปิดงบมาให้ การใส่รายละเอียดต่างๆให้ไปคลิกที่ “ระบุข้อมูล”
6.เมื่อได้กำไรสุทธิทางบัญชีแล้ว ก็ให้กรอกข้อมูลการกระทบยอดจากกำไรสุทธิทางบัญชีให้เป็นกำไรสุทธิทางภาษี โดยการใส่รายละเอียดย่อยต่างๆให้คลิกที่ “ระบุข้อมูล”
7.หลังจากที่ได้กำไรสุทธิที่ต้องเสียภาษีแล้ว ก็ให้กรอกระบุอัตราภาษีที่กิจการต้องเสีย และระบบก็จะคำนวณภาษีออกมาให้อัตโนมัติ
8.หลังจากได้ตัวเลขภาษีออกมาแล้ว ก็มากรอกรายการหัก เช่น ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายที่ถูกหักไปแล้ว หรือ ภาษีเงินได้ครึ่งปีที่จ่ายไปแล้ว เป็นต้น หักออกมาได้เท่าใด คือตัวเลขภาษีที่ต้องเสียตาม ภงด 50 นั่นเอง เมื่อกรอกเสร็จแล้ว ให้กด ถัดไป
9.ต่อมาก็ให้กรอกตัวเลขสินทรัพย์ หนี้สิน และส่วนของผู้ถือหุ้น/ผู้เป็นหุ้นส่วน โดยให้กดไปที่ “ระบุข้อมูล” และให้กรอกความเห็นในหน้ารายงานของผู้สอบบัญชี หรือของผู้สอบบัญชีภาษีอากร
10.หลังจากนั้นก็ให้กรอกว่ากิจการของเราเป็นกิจการที่มีความสัมพันธ์กันตามมาตรา 71 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากรหรือไม่ และให้กรอกรายละเอียดของผู้สอบบัญชี และผู้ทำบัญชี
11.หลังจากนั้นก็ให้กรอกแบบแจ้งข้อความของกรรมการ หรือผู้เป็นหุ้นส่วน หรือผู้จัดการ ให้ครบถ้วน
12.สุดท้ายให้กรอกส่วนของผู้ตรวจสอบและรับรองบัญชี รวมถึงวันที่ตามหน้ารายงานของผู้สอบบัญชี แล้วกดถัดไป ยื่นแบบ และจ่ายภาษีตามลำดับ เป็นอันเสร็จขั้นตอนในการยื่น ภงด 50
สรุป
แบบ ภงด 50 เป็นแบบที่เอาไว้ใช้ยื่นภาษีเงินได้นิติบุคคล ประจำปี จึงมีความสำคัญมากที่ผู้ประกอบการและนักบัญชีต้องมีความเข้าใจในการยื่นแบบ ภาษีดังกล่าว เพื่อให้เสียภาษีต่างๆได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกท่านนะครับ