สารบัญ
เดบิต เครดิต (Debit Credit) คืออะไร ?
เดบิต (Debit) เครดิต (Credit) เป็นรูปแบบวิธีการในการบันทึกบัญชีในปัจจุบัน ซึ่งเป็นการบันทึกบัญชีตามหลักบัญชีคู่ คือ เมื่อมีการบันทึกบัญชีไปแล้ว 1 บัญชี จะต้องมีอีกบัญชีที่บันทึกคู่กันด้วยเสมอ ยกตัวอย่างวิธีการบันทึกบัญชี เช่น
เมื่อได้บริษัทรับเงินจากการให้บริการ 1,000 บาท
เดบิต เงินสด 1,000
เครดิต รายได้จากการให้บริการ 1,000
หรือตัวย่อภาษาอังกฤษที่นิยมใช้กัน หากเป็น เดบิต จะเขียนตัวย่อว่า Dr. หากเป็น เครดิต จะเขียนตัวย่อว่า Cr. จากตัวอย่างเดิม เมื่อได้บริษัทรับเงินจากการให้บริการ 1,000 บาท จะเขียนรายการบันทึกบัญชีได้เป็น
Dr. เงินสด 1,000
Cr. รายได้จากการให้บริการ 1,000
จะเห็นได้ว่าเมื่อมีการบันทึกบัญชีทางด้าน เดบิต และจะต้องมีการบันทึกอีกบัญชีทางด้าน เครดิต ด้วยเสมอ เราจะเรียกระบบการบันทึกบัญชีแบบนี้ว่าระบบบัญชีคู่ นั่นเอง
หลักการและวิธีการบันทึกบัญชีด้วยเดบิต เครดิต (Debit Credit)
ก่อนที่จะไปทำความเข้าใจหลักการและวิธีการบันทึกบัญชีด้วยเดบิต เครดิต (Debit Credit) เรามาทำความเข้าใจโครงสร้างของงบการเงินกันก่อน โครงสร้างของงบการเงินจะประกอบไปด้วย สินทรัพย์ หนี้สิน และส่วนของเจ้าของ สมการบัญชีเป็นดังนี้
สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ
จากแผนภาพดังกล่าวสามารถสรุปหลักการเดบิต เครดิต (Debit Credit) ได้ดังนี้
-
- หากรายการค้าทำให้สินทรัพย์เพิ่มขึ้น ต้องบันทึก เดบิต (Debit)
- หากรายการค้าทำให้สินทรัพย์ลดลง ต้องบันทึก เครดิต (Credit)
- หากรายการค้าทำให้หนี้สินเพิ่มขึ้น ต้องบันทึก เครดิต (Credit)
- หากรายการค้าทำให้หนี้สินลดลง ต้องบันทึก เดบิต (Debit)
- หากรายการค้าทำให้ส่วนของเจ้าของเพิ่มขึ้น ต้องบันทึก เครดิต (Credit)
- หากรายการค้าทำให้ส่วนของเจ้าของลดลง ต้องบันทึก เดบิต (Debit)
จากหลักการข้างต้น เราลองมาดูตัวอย่างที่เคยให้ไว้กัน ว่ามีหลักคิดในการบันทึกบัญชี เดบิต (Debit) เครดิต (Credit) อย่างไร
โจทย์ : บริษัทรับเงินจากการให้บริการ 1,000 บาท
การวิเคราะห์ :
-
- เงินถือเป็นสินทรัพย์ของบริษัท การได้รับเงินเข้ามาย่อมทำให้สินทรัพย์ของบริษัทนั้นเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงต้อง เดบิต เงินสด 1,000 บาท
- การที่บริษัทได้รับเงินจากการให้บริการ ถือเป็นรายได้ของบริษัท ซึ่งส่งผลให้ส่วนของเจ้าของเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงต้อง เครดิต รายได้จากการให้บริการ 1,000 บาท
เดบิต เงินสด 1,000
เครดิต รายได้จากการให้บริการ 1,000
ตัวอย่างการบันทึกรายการค้าด้วยเดบิต เครดิต (Debit Credit)
โจทย์ 1 : บริษัทซื้อรถยนต์คันใหม่เข้ามาด้วยเงินสดมูลค่า 1,000,000 บาท
การวิเคราะห์ :
-
- รถยนต์ถือเป็นสินทรัพย์ของบริษัท การที่บริษัทซื้อรถยนต์คันใหม่เข้ามาทำให้สินทรัพย์ของบริษัทนั้นเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงต้อง เดบิต ยานพาหนะ 1,000,000 บาท
- การที่บริษัทซื้อรถยนต์คันใหม่เข้ามาด้วยเงินสด ถึงแม้จะทำให้ยานพาหนะเพิ่มขึ้น แต่ก็ทำให้สินทรัพย์อีกตัวลดลง นั่นก็คือเงินสด ดังนั้นจึงต้อง เครดิต เงินสด 1,000,000 บาท
เดบิต ยานพาหนะ 1,000,000
เครดิต เงินสด 1,000,000
โจทย์ 2 : บริษัทซื้อสินค้าเข้ามาด้วยเงินเชื่อราคา 10,000 บาท
การวิเคราะห์ :
-
- สินค้าถือเป็นสินทรัพย์ของบริษัท การที่บริษัทซื้อสินค้าเข้ามาทำให้สินทรัพย์ของบริษัทนั้นเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงต้อง เดบิต สินค้าคงเหลือ 10,000 บาท
- การที่บริษัทซื้อสินค้าเข้ามาด้วยเงินเชื่อ (ค้างชำระ) ทำให้หนี้สินของบริษัทเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงต้อง เครดิต เจ้าหนี้การค้า 10,000 บาท
เดบิต สินค้าคงเหลือ 10,000
เครดิต เจ้าหนี้การค้า 10,000
โจทย์ 3 : บริษัทจ่ายชำระเงินให้แก่เจ้าหนี้ค่าสินค้าจำนวน 10,000 บาท
การวิเคราะห์ :
-
- การจ่ายเงินชำระให้แก่เจ้าหนี้ค่าสินค้า ทำให้เจ้าหนี้นั้นลดลง ดังนั้นจึงต้อง เดบิต เจ้าหนี้การค้า 10,000 บาท
- การจ่ายเงินชำระให้แก่เจ้าหนี้ค่าสินค้า ทำให้เงินสดซึ่งเป็นสินทรัพย์ของบริษัทลดลงเช่นกัน ดังนั้นจึงต้อง เครดิต เงินสด 10,000 บาท
เดบิต เจ้าหนี้การค้า 10,000
เครดิต เงินสด 10,000
โจทย์ 4 : บริษัทจ่ายเงินค่าซ่อมแซมพาหนะเป็นจำนวนเงิน 50,000 บาท
การวิเคราะห์ :
-
- การจ่ายเงินค่าซ่อมยานพาหนะ ถือเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัท ซึ่งค่าใช้จ่ายนั้นทำให้ส่วนของเจ้าของลดลง ดังนั้นจึงต้อง เดบิต ค่าซ่อมแซมยานพาหนะ 50,000 บาท
- การจ่ายเงินชำระค่าซ่อมแซมยานพาหนะ ทำให้เงินสดซึ่งเป็นสินทรัพย์ของบริษัทลดลง ดังนั้นจึงต้อง เครดิต เงินสด 50,000 บาท
เดบิต ค่าซ่อมแซมยานพาหนะ 50,000
เครดิต เงินสด 50,000
สรุป
เดบิต เครดิต (Debit Credit) เป็นวิธีการบันทึกบัญชีที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน และทุกๆบริษัทนั้นใช้กัน โดยสามารถสรุปหลักการเบื้องต้นได้ดังนี้
-
- หากรายการค้าทำให้สินทรัพย์เพิ่มขึ้น ต้องบันทึก เดบิต (Debit)
- หากรายการค้าทำให้สินทรัพย์ลดลง ต้องบันทึก เครดิต (Credit)
- หากรายการค้าทำให้หนี้สินเพิ่มขึ้น ต้องบันทึก เครดิต (Credit)
- หากรายการค้าทำให้หนี้สินลดลง ต้องบันทึก เดบิต (Debit)
- หากรายการค้าทำให้ส่วนของเจ้าของเพิ่มขึ้น ต้องบันทึก เครดิต (Credit)
- หากรายการค้าทำให้ส่วนของเจ้าของลดลง ต้องบันทึก เดบิต (Debit)