การจดทะเบียนพาณิชย์ (หรือบางคนเรียกว่า การจดทะเบียนการค้า) คือ หลักฐานในการประกอบธุรกิจอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งผู้ที่มีหน้าที่จดทะเบียนได้แก่
1. บุคคลธรรมดาคนเดียว (กิจการเจ้าของคนเดียว)
2. ห้างหุ้นส่วนสามัญ
เงินทุนหมุนเวียน หรือ Working capital คือ เงินทุนที่กิจการต้องใช้ในการดำเนินงานของกิจการในระยะสั้นไม่เกิน 1 ปี ซึ่งเงินทุนดังกล่าวเปรียบเสมือนน้ำหล่อเลี้ยงที่ทำให้กิจการสามารถดำเนินการต่อไปได้ จากสูตรข้างต้นหาก สินทรัพย์หมุนเวียน – หนี้สินหมุนเวียน ได้ยอดมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีแสดงว่ากิจการมีสินทรัพย์หมุนเวียนมากกว่าหนี้สินหมุนเวียน และยังคงมีสภาพคล่องที่ดีในระยะสั้น ในทางกลับกันหากคำนวณแล้วได้ยอดติบลบแสดงว่า กิจการมีสินทรัพย์หมุนเวียนน้อยกว่าหนี้สินหมุนเวียน มีสินทรัพย์ที่จะเอาไปชำระน้อยกว่าหนี้สินที่มีในระยะสั้น แสดงให้เห็นถึงสภาพคล่องที่ไม่ดีของกิจการ
งบทดลอง (Trial balance หรือ TB) คือ รายงานทางบัญชีที่สรุปยอดสิ้นงวดของแต่ละบัญชี ซึ่งจะสรุปยอดมาจากยอดสุดท้ายในบัญชีแยกประเภท
บัญชีแยกประเภท (General ledger หรือ GL) คือ รายงานทางบัญชีที่แสดงยอดเคลื่อนไหวของบัญชีใดบัญชีหนึ่ง ซึ่งจะสรุปยอดมาจากการบันทึกบัญชีในสมุดรายวัน 5 ประเภท
สมการบัญชี คือ สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ ความหมายของมันคือว่า ณ จุดเวลาหนึ่งบริษัทมีสินทรัพย์ (ฝั่งซ้ายของสมการ) เป็นจำนวนกี่บาทประกอบไปด้วยอะไรบ้าง และสินทรัพย์ทั้งหมดดังกล่าว จัดหามาโดยการก่อหนี้เป็นจำนวนกี่บาท และเป็นส่วนของเจ้าของเอง เป็นจำนวนกี่บาท (ฝั่งขวาของสมการ)
เดบิต (Debit) เครดิต (Credit) เป็นรูปแบบวิธีการในการบันทึกบัญชีในปัจจุบัน ซึ่งเป็นการบันทึกบัญชีตามหลักบัญชีคู่ คือ เมื่อมีการบันทึกบัญชีไปแล้ว 1 บัญชี จะต้องมีอีกบัญชีที่บันทึกคู่กันด้วยเสมอ
สมุดบัญชีเป็นสมุดหรือรูปแบบเอกสารเพื่อเอาไว้ใช้บันทึกบัญชีของบริษัท สมุดบัญชีสามารถแบ่งออกได้เป็น 5 เล่ม หรือ 5 ประเภทดังนี้
1. สมุดรายวันซื้อ
2. สมุดรายวันขาย
3. สมุดรายวันจ่าย
4. สมุดรายวันรับ
5. สมุดรายวันทั่วไป
CAGR ย่อมาจากคำว่า Compound Annual Growth Rate หรือแปลเป็นภาษาไทยว่า อัตราการเติบโตเฉลี่ยทบต้นต่อปี ตัวเลข CAGR สามารถเอาไปวัดค่าทางด้านการเติบโตที่เกี่ยวข้องกับตัวเลขทางการเงินได้หลายรูปแบบ
สเตทเม้นท์ หรือ ชื่อภาษาอังกฤษคือ Bank statement คือ รายงานสรุปความเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งแสดงรายการยอดเงินเข้า (ฝาก) หรือเงินออก (ถอน, โอน, ชำระค่าบริการ) ยอดเงินคงเหลือ และรายละเอียดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับบัญชี
EBITDA ย่อมาจากภาษาอังกฤษคำว่า Earnings Before Interest, Taxes, Depreciation, and Amortization ซึ่งก็คือ กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย หรือพูดได้อีกนัยหนึ่งว่า เป็นตัวเลขเพื่อใช้ในการวิเคราะห์กำไรจากการดำเนินงานของบริษัท โดยไม่รวมผลกระทบของ
• Interest – ดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นจากการกู้ยืมต่างๆ
• Taxes – ภาษีเงินได้นิติบุคคล
• Depreciation – ค่าเสื่อมราคาของบัญชี อาคารและอุปกรณ์
• Amortization – ค่าตัดจำหน่ายของบัญชีสินทรัพย์ไม่มีตัวตน
ซึ่งตัวเลข EBITDA ที่คำนวณออกมาได้จะใกล้เคียงกับ กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน แต่เป็นตัวเลขแบบคร่าวๆไม่ได้เป็นตัวเลขกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่แท้จริงเหมือนงบกระแสเงินสด