สารบัญ
CAGR คืออะไร ?
CAGR ย่อมาจากคำว่า Compound Annual Growth Rate หรือแปลเป็นภาษาไทยว่า อัตราการเติบโตเฉลี่ยทบต้นต่อปี ตัวเลข CAGR สามารถเอาไปวัดค่าทางด้านการเติบโตที่เกี่ยวข้องกับตัวเลขทางการเงินได้หลายรูปแบบดังนี้
ด้านการเงินและการลงทุน:
-
-
- มูลค่าพอร์ตการลงทุน: วัดอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีของมูลค่ารวมของสินทรัพย์ในพอร์ตการลงทุนในช่วงเวลาที่กำหนด
- ราคาหุ้น: วิเคราะห์อัตราการเติบโตของราคาหุ้นในช่วงเวลาต่างๆ
- เงินปันผล: วิเคราะห์การเติบโตของเงินปันผลที่บริษัทจ่ายให้ผู้ถือหุ้น
-
ด้านธุรกิจ:
-
-
- ยอดขาย: วัดอัตราการเติบโตของยอดขายสินค้าหรือบริการของบริษัท ในช่วงเวลาที่กำหนด
- กำไร: วัดอัตราการเติบโตของกำไรของบริษัท ในช่วงเวลาที่กำหนด
- จำนวนลูกค้า: วิเคราะห์การเติบโตของฐานลูกค้า
- จำนวนผู้ใช้งานในระบบ (ธุรกิจแพลทฟอร์ม): วัดการเติบโตของจำนวนผู้ใช้งานแพลตฟอร์มหรือแอปพลิเคชัน
- การเข้าชมเว็บไซต์: วิเคราะห์การเติบโตของการเข้าชมเว็บไซต์
-
ด้านอื่นๆ:
-
-
- จำนวนประชากร: วัดอัตราการเติบโตของจำนวนประชากรในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง
- การใช้พลังงาน: วิเคราะห์อัตราการเติบโตของการใช้พลังงานในประเทศหรือภูมิภาค
- จำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต: ดูการเติบโตของการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของคนในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง
-
สูตรและวิธีการคำนวณ CAGR อย่างง่าย
สูตรการคำนวณ CAGR เป็นดังนี้
ตัวอย่างที่ 1 : สมมติว่ายอดขายในแต่ละปีของบริษัทเติบโตขึ้นดังนี้
ปีที่ 1 : ยอดขาย 10,000 บาท
ปีที่ 2 : ยอดขายเติบโตขึ้น 20% เป็น 12,000 บาท
ปีที่ 3 : ยอดขายเติบโตขึ้น 30% เป็น 15,600 บาท
ปีที่ 4 : ยอดขายเติบโตขึ้น 50% เป็น 23,400 บาท
ถ้าคำนวณหา CAGR ตามสูตรข้างต้นจะได้ดังนี้
มูลค่าเริ่มต้น (ปีที่ 1): 10,000 บาท
มูลค่าสิ้นสุด (ปีที่ 4): 23,400 บาท
จำนวนปี: 4 – 1 = 3 ปี
เมื่อแปลงเป็น % จะได้ CAGR = 32.75%
ดังนั้น CAGR หรือ การเติบโตทบต้นของยอดขายต่อปีในช่วง 3 ปีนี้ (จากปีที่ 1 ถึงปีที่ 4) คือประมาณ 32.75% ต่อปี นั่นเอง หรือถ้าอยากเราลองตรวจสอบดูว่าคำตอบที่ได้มานั้นถูกต้องหรือไม่ ก็ให้นำอัตราการเติบโตดังกล่าวไป คูณกับมูลค่าตั้งต้นในปีที่ 1 ไป 3 ครั้งถึงปีที่ 4 ดังนี้
ยอดขายปีที่ 1 : 10,000 บาท
หากอัตราการเติบโตเฉลี่ย 32.75% คำนวณยอดขายปีที่ 2 ได้ประมาณ 13,275
หากอัตราการเติบโตเฉลี่ย 32.75% คำนวณยอดขายปีที่ 3 ได้ประมาณ 17,622.56
หากอัตราการเติบโตเฉลี่ย 32.75% คำนวณยอดขายปีที่ 4 ได้ประมาณ 23,400 เท่ากับยอดขายในปีที่ 4 นั่นเอง
ประโยชน์ของการใช้ CAGR
การใช้ CAGR มาวัดการเติบโตเฉลี่ยแบบทบต้น ในด้านตัวเลขทางการเงินต่างๆของกิจการ มีประโยชน์ดังนี้
-
- เป็นการวัดอัตราการเติบโตเฉลี่ยอย่างแท้จริง: CAGR แสดงให้เห็นถึงอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีแบบทบต้น ซึ่งเป็นภาพที่แม่นยำกว่าการคำนวณอัตราการเติบโตต่อปีแบบธรรมดาที่ไม่นำผลตอบแทนทบต้นมาพิจารณา
- เปรียบเทียบประสิทธิภาพ: ช่วยให้สามารถเปรียบเทียบประสิทธิภาพของการลงทุน สินทรัพย์ หรือธุรกิจต่างๆ ได้อย่างง่ายดายในช่วงเวลาเดียวกัน ทำให้เห็นว่าสิ่งใดมีการเติบโตที่ดีกว่า
- ลดผลกระทบจากความผันผวน: CAGR ช่วยลดผลกระทบของความผันผวนในแต่ละปี ทำให้เห็นแนวโน้มการเติบโตในระยะยาวได้ชัดเจนขึ้น (แต่ก็เป็นข้อเสียในเรื่องการละเลยความผันผวนในระหว่างทาง เช่นเดียวกัน)
- ประเมินแนวโน้มในอดีต: สามารถใช้วิเคราะห์การเติบโตในอดีตที่ผ่านมา เพื่อหาแนวโน้มและคาดการณ์การเติบโตในอนาคตได้
ข้อจำกัดของการใช้ CAGR
ถึงแม้ว่า CAGR จะเป็นเครื่องมือช่วยวิเคราะห์อัตราการเติบโตเฉลี่ยแบบทบต้นได้ดี แต่ก็มีข้อควรระวังในการใช้ดังนี้
-
- มองข้ามความผันผวนระหว่างทาง: จากสูตร CAGR ที่ใช้ตัวเลข มูลค่าเริ่มต้นและมูลค่าสิ้นสุดในการคำนวณ จะเห็นได้ว่า CAGR ไม่ได้คำนึงถึงมูลค่าอื่นที่อยู่ระหว่างมูลค่าเริ่มต้นและมูลค่าสิ้นสุดเลย ดังนั้นสูตรดังกล่าวแสดงเพียงอัตราการเติบโตเฉลี่ยตลอดช่วงเวลา แต่ไม่ได้สะท้อนถึงความผันผวนของการเติบโตในแต่ละปี
ยกตัวอย่างเช่น บริษัท A และ บริษัท B มีอัตราการเติบโต CAGR ของกำไรที่ 10% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา บริษัท A กำไรมีความผันผวนเป็นอย่างมาก บางปีก็กำไรสูง แต่บางปีก็ขาดทุน ขณะที่บริษัท B กำไรจะค่อยๆเติบโตขึ้นเรื่อยๆในแต่ละปีประมาณ 10% ถ้าเราใช้ CAGR มาวิเคราะห์อย่างเดียวเราอาจตีความว่าบริษัท A และ B มีความน่าสนใจในการลงทุนเท่าๆกัน เพราะ CAGR ทำได้ 10% เท่าๆกัน แต่ในความเป็นจริงนั้นบริษัท B มีความเสี่ยงน้องกว่ามาก เนื่องจากคำวามผันผวนของกำไรที่ต่ำกว่า เป็นต้น
-
- ผลกระทบจากจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด: จากสูตรการคำนวณค่า CAGR จะได้รับผลกระทบอย่างมากจากมูลค่าเริ่มต้นและมูลค่าสิ้นสุด ซึ่งหากจุดเริ่มต้นมีมูลค่าต่ำผิดปกติ หรือจุดสิ้นสุดมีมูลค่าสูงผิดปกติ CAGR ก็อาจบิดเบือนภาพรวมของการเติบโตที่แท้จริงได้ ดังนั้นตัวเลขจุดเริ่มต้น และจุดสิ้นสุดที่นำมาใช้ในการคำนวณหา CAGR ควรจะเป็นปีที่เป็นปกติ หรือ ก่อนนำตัวเลขมาใช้ควรจะตัดรายการที่ผิดปกตินั้นออกไปก่อนที่จะนำตัวเลขมูลค่าเริ่มต้นและมูลค่าสิ้นสุด มาใช้
- ไม่พิจารณาปัจจัยภายนอก: จากสูตรการคำนวณ CAGR จะมุ่งเน้นไปที่ตัวเลขการเติบโตในอดีตเพียงอย่างเดียว โดยไม่ได้พิจารณาถึงปัจจัยภายนอกที่อาจมีผลต่อการเติบโต เช่น การเปลี่ยนแปลงของตลาด ภาวะการแข่งขัน เป็นต้น
สรุป
CAGR (Compound Annual Growth Rate) คือ อัตราการเติบโตเฉลี่ยทบต้นต่อปี เป็นตัวเลขที่สามารถนำมาใช้วิเคราะห์อัตราการเติบโตของตัวเลขทางการเงินได้ดี เช่น การเติบโตของมูลค่าพอร์ตการลงทุน การเติบโตของราคาหุ้น การเติบโตของเงินปันผล เป็นต้น โดยสูตรการคำนวณจะเน้นคำนวณอัตราการเติบโตจากมูลค่าเริ่มต้น และมูลค่าสิ้นสุด หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกท่านนะครับ