ภาษีซื้อต้องห้ามมีอะไรบ้าง มาทำความเข้าใจกัน

ปกบทความภาษีซื้อต้องห้ามมีอะไรบ้าง

สารบัญ

ภาษีซื้อต้องห้ามคืออะไร?

          ภาษีซื้อต้องห้ามคือ ภาษีซื้อที่ผู้ประกอบการจด Vat ไม่สามารถนำไปหักออกจากภาษีขายในการคำนวณ Vat ได้ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  1. ไม่มีใบกำกับภาษี
  2. ใบกำกับภาษีไม่ถูกต้อง
  3. ภาษีซื้อที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจการ
  4. ภาษีซื้อค่ารับรอง
  5. ภาษีซื้อที่ออกโดยผู้ที่ไม่มีสิทธิ์ออกใบกำกับภาษี
  6. ภาษีซื้อตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 42) – ป.42

ทำความเข้าใจเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ภาษีมูลค่าเพิ่มคืออะไร? มาหาคำตอบกันได้จากบทความนี้ 

ภาษีซื้อต้องห้าม : ไม่มีใบกำกับภาษี

          หากผู้ประกอบการไปซื้อสินค้าหรือบริการแต่ไม่ได้รับใบกำกับภาษีมา ภาษีซื้อที่เกิดขึ้นจะถือว่าเป็นภาษีซื้อต้องห้าม คือห้ามนำภาษีซื้อดังกล่าวไปหักออกจากภาษีขาย

ภาษีซื้อต้องห้าม : ใบกำกับภาษีไม่ถูกต้อง

          หากผู้ประกอบการไปซื้อสินค้าหรือบริการได้รับใบกำกับภาษีมา แต่มีข้อความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ จะถือว่าเป็นภาษีซื้อต้องห้าม คือห้ามนำภาษีซื้อดังกล่าวไปหักออกจากภาษีขาย

ใบกำกับภาษีที่ครบถ้วนสมบูรณ์ต้องมีรายละเอียดดังนี้

  1. คำว่าใบกำกับภาษีในที่ที่เห็นได้ชัด
  2. ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ประกอบการจด Vat ที่ออกใบกำกับภาษี
  3. ชื่อ ที่อยู่ ของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ
  4. หมายเลขลำดับของใบกำกับภาษี และหมายเลขลำดับของเล่มถ้ามี
  5. ชื่อ ชนิด ประเภท ปริมาณ และมูลค่าของสินค้าหรือของบริการ
  6. มูลค่าของสินค้าหรือของบริการที่ยังไม่รวม Vat และจำนวน Vat ที่คำนวณจากมูลค่าของสินค้าหรือของบริการ โดยให้แยกออกจากมูลค่าของสินค้าหรือของบริการให้ชัดเจน
  7. วัน เดือน ปี ที่ออกใบกำกับภาษี วัน เดือน ปี

ภาษีซื้อต้องห้าม : ภาษีซื้อที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจการ

          ยกตัวอย่างเช่นหากผู้ประกอบการทำธุรกิจซื้อขายสินค้าเกี่ยวกับเครื่องสำอางค์ แต่ดันไปมีภาษีซื้อเกี่ยวกับอาหารสัดว์ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ดังนั้นภาษีซื้อที่เกี่ยวกับอาหารสัตว์ดังกล่าวถือเป็นภาษีซื้อต้องห้าม

ภาษีซื้อต้องห้าม : ภาษีซื้อค่ารับรอง

          ค่ารับรอง คือ ค่าอาหาร ค่าเครื่องดื่ม ค่าของขวัญ ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องในการเลี้ยง รับรองรวมทั้งค่าบริการด้วย ภาษีซื้อที่เกี่ยวข้องกับการรับรองจะถือเป็นภาษีซื้อต้องห้าม

ภาษีซื้อต้องห้าม : ภาษีซื้อที่ออกโดยผู้ที่ไม่มีสิทธิ์ออกใบกำกับภาษี

          ยกตัวอย่างเช่น บริษัท ABC จำกัด ไม่ได้เป็นผู้ประกอบการที่จด Vat แต่ไปออกใบกำกับภาษีให้กับ บริษัท BMU จำกัด ภาษีซื้อที่ทาง บริษัท BMU จำกัด ได้รับนั้นถือว่าเป็นภาษีซื้อต้องห้าม ดังนั้นในการติดต่อทำธุรกิจระหว่างบริษัท ผู้ประกอบการควรที่จะตรวจสอบก่อนว่าบริษัทที่เราทำการค้าอยู่น่าเชื่อถือ และเป็นผู้ประกอบการจด Vat จริง

การตรวจสอบผู้ประกอบการจด Vat สามารถตรวจสอบได้ที่นี่ : ตรวจสอบผู้ประกอบการจด Vat 

ภาษีซื้อต้องห้าม : ภาษีซื้อตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 42)

ภาษีซื้อต้องห้ามตาม ป.42 มีรายละเอียดโดยย่อดังนี้

  1. ภาษีซื้อที่เกิดจากการซื้อ เช่าซื้อ เช่า หรือรับโอนรถยนต์นั่งและรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน รวมถึง การซื้อสินค้าหรือการรับบริการที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์นั่งและรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ด้วย
  2. ภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีอย่างย่อ
  3. ภาษีซื้อที่เกิดจากการซื้อทรัพย์สิน / ค่าใช้จ่าย เพื่อใช้หรือจะใช้ในกิจการประเภทที่ไม่ต้องเสีย Vat
  4. ภาษีซื้อที่เกิดจากการก่อสร้างอาคารหรืออสังหาริมทรัพย์อื่นเพื่อใช้ในกิจการที่ต้องเสีย Vat และต่อมาได้ขาย หรือให้เช่าหรือนำไปใช้ในกิจการประเภทที่ไม่ต้องเสีย Vat ทั้งนี้ เฉพาะที่ได้ทำภายในสามปีนับจากเดือนภาษีที่ก่อสร้างเสร็จ
  5. ใบกำกับภาษีที่รายการตามมาตรา 86/4(1) แห่งประมวลรัษฎากรมิได้ตีพิมพ์ขึ้น หรือมิได้จัดทำขึ้นด้วยระบบคอมพิวเตอร์ในกรณีจัดทำใบกำกับภาษีขึ้นด้วยระบบคอมพิวเตอร์ทั้งฉบับ
  6. ใบกำกับภาษีซึ่งมีรายการในใบกำกับภาษีเป็นสำเนา (copy) แต่ไม่รวมถึงใบกำกับภาษีที่ได้จัดทำรวมกับเอกสารทางการค้าอื่น ซึ่งมีจำนวนหลายฉบับ และใบกำกับภาษีซึ่งมีรายการในใบกำกับภาษีเป็นสำเนามีข้อความว่าเอกสารออกเป็นชุดปรากฏอยู่ด้วย
  7. ภาษีซื้อส่วนที่เฉลี่ยเป็นของกิจการประเภทที่ไม่ต้องเสีย Vat
  8. ภาษีซื้อที่เกิดจากการซื้อสินค้าหรือรับบริการ ซึ่งผู้ประกอบการจดทะเบียนนำไปใช้หรือจะใช้ในการประกอบกิจการทั้งประเภทที่ต้องเสีย Vat และประเภทที่ไม่ต้องเสีย Vat และผู้ประกอบการจดทะเบียนดังกล่าวใช้สิทธิเลือกไม่นำภาษีซื้อทั้งหมดไปหักในการคำนวณ Vat เพราะกิจการประเภทที่ไม่ต้องเสียVat มีรายได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของรายได้ของกิจการทั้งหมด
  9. ภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีซึ่งรายการตามมาตรา 86/4 ได้ถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลง เว้นแต่รายการซึ่งได้ถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด
  10. ภาษีซื้อจากการซื้อ เช่าซื้อ หรือรับโอนรถยนต์ที่ไม่ใช่รถยนต์นั่งและรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน เพื่อใช้หรือจะใช้ในกิจการประเภทที่ต้องเสีย Vat ต่อมาได้มีการดัดแปลงรถยนต์ดังกล่าวเป็นรถยนต์นั่ง หรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ทั้งนี้เฉพาะที่ได้กระทำภายในสามปีนับแต่เดือนภาษีที่ได้รถยนต์ไว้ในครอบครอง

ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมที่ : ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 42) 

ผลกระทบต่อการคำนวณ Vat ของภาษีซื้อต้องห้าม

วิธีในการคำนวณยอดที่นำส่ง Vat เป็นดังนี้

ตารางวิธีคำนวณยอดที่นำส่ง Vat

           ดังนั้นหากรายการไหนเป็นภาษีซื้อต้องห้าม ผู้ประกอบการจะไม่สามารถนำมาหักออกจากภาษีขายได้ ทำให้ Vat ที่ต้องนำส่งนั้นจะเพิ่มสูงขึ้นนั่นเอง

ผลกระทบต่อการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลของภาษีซื้อต้องห้าม

         ภาษีซื้อต้องห้ามบางรายการไม่สามารถเป็นรายจ่ายทางภาษีได้ แต่บางรายการนั้นสามารถเป็นรายจ่ายทางภาษีได้ สามารถสรุปได้ดังนี้

ภาษีซื้อต้องห้ามที่ไม่สามารถลงเป็นรายจ่ายทางภาษีได้

  1. ไม่มีใบกำกับภาษี
  2. ใบกำกับภาษีไม่ถูกต้อง
  3. ภาษีซื้อที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจการ
  4. ภาษีซื้อที่ออกโดยผู้ที่ไม่มีสิทธิ์ออกใบกำกับภาษี

ภาษีซื้อต้องห้ามที่สามารถลงเป็นรายจ่ายทางภาษีได้

  1. ภาษีซื้อค่ารับรอง
  2. ภาษีซื้อตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 42)
สรุปภาษีซื้อต้องห้าม

สรุป

          หากผู้ประกอบการต้องการนำส่ง Vat แต่ละเดือนให้ถูกต้อง ผู้ประกอบการต้องมีความเข้าใจในเรื่องของภาษีซื้อต้องห้าม ว่ารายการใดสามารถนำไปหักออกจากภาษีขายได้ รายการใดไม่สามารถหักออกจากภาษีขายได้ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการมือใหม่ทุกท่านครับ

This site uses cookies to offer you a better browsing experience. By browsing this website, you agree to our use of cookies.