สารบัญ
e-Withholding Tax คืออะไร?
e-Withholding Tax คือ ระบบภาษีหัก ณ ที่จ่ายอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นระบบใหม่ที่กรมสรรพากรพัฒนาขึ้น เพื่อให้ผู้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย สามารถนำส่งภาษีและออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้โดยตรง ผ่านระบบของธนาคาร ซึ่งในปัจจุบันระบบดังกล่าวยังเป็นทางเลือกที่ผู้ประกอบการจะทำหรือไม่ทำก็ได้ หากไม่ทำตามระบบ e-Withholding Tax ก็จะใช้วิธีการนำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่ายแบบเดิม
ความแตกต่างระหว่างภาษีหัก ณ ที่จ่าย แบบเดิมกับ e-Withholding Tax
ก่อนอื่นทางผมจะขออธิบายระบบการหักภาษี ณ ที่จ่าย แบบเดิมกันก่อน ดังนี้
-
- เมื่อผู้บริการจ่ายเงินที่กฎหมายกำหนดให้หัก ณ ที่จ่าย ยกตัวอย่างเช่น บริษัท BMU จ่ายค่าเช่า 20,000 บาท ให้บริษัท ABC ซึ่งตามกฎหมายต้องมีการหัก ณ ที่จ่าย 5% คือ 1,000 บาท ดังนั้นยอดเงินที่บริษัท BMU ต้องจ่ายให้ผู้ให้เช่า คือ 20,000 – 1,000 = 19,000 บาท
- บริษัท BMU (ผู้จ่าย) ต้องออกหนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่ายจำนวน 1,000 บาท ให้บริษัท ABC (ผู้รับ) เพื่อให้เก็บเอาไว้เป็นหลักฐานในการขอเครดิตภาษี
- ภายในวันที่ 7 เดือน ถัดไป บริษัท BMU จะต้องนำส่งแบบภาษี และยอดเงินภาษีจำนวน 1,000 บาท ให้แก่กรมสรรพากร เป็นอันจบกระบวนการของระบบภาษีหัก ณ ที่จ่ายแบบเดิม
เราลองมาดูระบบการหัก ณ ที่จ่ายแบบใหม่ที่มีชื่อเรียกว่า e-Withholding Tax กันดูบ้าง
-
- เมื่อผู้บริการได้สมัครการนำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่ายแบบ e-Withholding tax แล้ว เมื่อบริษัท BMU จ่ายค่าเช่า 20,000 บาท ให้บริษัท ABC ซึ่งตามกฎหมายต้องมีการหัก ณ ที่จ่าย 5% คือ 1,000 บาท หากเป็นระบบ e-Withholding tax บริษัท BMU จะสั่งทำรายการโอนเงินไปที่ธนาคารที่ยอดเต็มเลยคือ 20,000 บาท
- เมื่อธนาคารได้รับเงินแล้ว ก็จะทำหน้าที่นำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่ายให้แก่สรรพากรโดยตรงตามจำนวนที่ได้รับแจ้ง ซึ่งจากในตัวอย่างนี้คือ 1,000 บาท
- ในขณะเดียวกันธนาคารก็จะโอนเงินไปให้ บริษัท ABC (ผู้รับเงิน) ด้วยยอดหลังหัก ณ ที่จ่าย จำนวน 19,000 บาท พร้อมทั้งแจ้งข้อมูลการรับโอนเงินเข้าบัญชีและการหักภาษีเพื่อเป็นหลักฐานให้แก่ผู้รับเงิน โดยผู้รับเงินไม่ต้องจัดเก็บหนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่ายในรูปแบบกระดาษอีกต่อไป แต่สามารถเข้าไปตรวจสอบหลักฐานได้ที่ https://epay.rd.go.th/
ตารางเปรียบเทียบความแตกต่างระบบหัก ณ ที่จ่ายแบบเดิม กับ ระบบ e-Withholding Tax
ประเภทเงินได้และอัตราภาษีสำหรับ e-Withholding Tax
ระบบ e-Withholding Tax ได้มีมาตรการการลดอัตราภาษีเป็นการชั่วคราวเพื่อส่งเสริมการใช้ระบบ คือ
รัฐบาลได้ออกมาตรการลดอัตราภาษีหัก ณ ที่จ่าย เหลือ 1% สำหรับการจ่ายเงินได้พึงประเมินบางประเภทที่จ่ายผ่านระบบ e-Withholding Tax
-
- ระยะเวลา: ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568
- ประเภทเงินได้ที่ได้รับการลดอัตรา: เงินได้พึงประเมินที่มีอัตราภาษีหัก ณ ที่จ่ายเดิม 2%, 3% และ 5% จะลดลงเหลือ 1% หากจ่ายผ่านระบบ e-Withholding Tax
หากมาตรการนี้หมดไปแล้วทางกรมสรรพากรไม่ได้มีการยืดระยะเวลาออกไปอีก อัตราภาษีของระบบ e-Withholding Tax ก็จะกลับมาเท่ากันกับอัตราภาษีหัก ณ ที่จ่ายระบบเดิมแบบในปัจจุบัน
สามารถสรุปอัตราออกมาเป็นตารางได้ดังนี้
ประโยชน์ของ e-Withholding Tax
ประโยชน์ของระบบดังกล่าวสามารถสรุปออกมาได้ดังนี้
-
- สำหรับผู้จ่ายเงิน : ช่วยลดภาระการจัดทำเอกสาร (เช่น การจัดทำหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย) และการยื่นแบบ (เช่น ภงด.3 ภงด.53 เป็นต้น)
- สำหรับผู้จ่ายเงิน : ลดต้นทุนในด้านการออกเอกสารและพื้นที่ในการจัดเก็บเอกสาร
- สำหรับผู้รับเงิน : ไม่ต้องเก็บเอกสารในรูปแบบกระดาษ
- สำหรับผู้รับเงิน : สามารถตรวจสอบข้อมูลภาษีถูกหัก ณ ที่จ่ายได้สะดวกผ่านระบบเว็บไซต์ของกรมสรรพากร และอาจได้รับเงินคืนภาษีรวดเร็วขึ้น
อย่างไรก็ตามระบบดังกล่าวอาจมีต้นทุนเพิ่มในส่วนของค่าธรรมเนียมธนาคารที่เรียกเก็บจากการที่ธนาคารเข้ามาช่วยในเรื่องของการนำส่งภาษี และดำเนินการทุกขั้นตอนให้แก่บริษัท ดังนั้นผู้ประกอบการควรนำต้นทุนส่วนเพิ่มนี้มาพิจารณาด้วยว่าการนำระบบ e-Withholding Tax มาใช้ในองค์กรนั้นคุ้มค่าหรือไม่
สรุป
ระบบ e-Withholding Tax หรือ ระบบภาษีหัก ณ ที่จ่ายอิเล็กทรอนิกส์ เป็นระบบหัก ณ ที่จ่ายแบบใหม่ ที่สรรพากรส่งเสริมให้ใช้ เพื่ออำนวยความสะดวกในเรื่องการออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และการนำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่าย โดยให้ธนาคารเป็นตัวกลางในการจัดการข้อมูลให้ นอกจากนี้ระบบดังกล่าวยังช่วยให้การบริหารภาษีของรัฐบาลมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกท่านนะครับ