ส่วนของผู้ถือหุ้น หรือ ส่วนของเจ้าของ (Equity) หมายถึง ส่วนได้เสียคงเหลือในสินทรัพย์ของกิจการ หลังจากหัก หนี้สินทั้งสิ้นออกแล้ว ซึ่งจะมีหลักในการคำนวณดังนี้
ส่วนของผู้ถือหุ้น (ส่วนของเจ้าของ) = สินทรัพย์ – หนี้สิน
หนี้สิน หมายถึง ภาระผูกพันปัจจุบันของกิจการ โดยภาระผูกพันดังกล่าวเป็นผลของเหตุการณ์ในอดีต ซึ่งการชำระภาระผูกพันนั้นคาดว่าจะส่งผลให้กิจการสูญเสีย ทรัพยากรเชิงเศรษฐกิจ
สินทรัพย์ หมายถึง ทรัพยากรที่อยู่ในความควบคุมของกิจการ ทรัพยากรดังกล่าวเป็น ผลของเหตุการณ์ในอดีต ซึ่งกิจการคาดว่าจะได้รับประโยชน์เชิงเศรษฐกิจจาก ทรัพยากรนั้นในอนาคต
การเลือกสำนักงานบัญชีที่ดีและที่ใช่นั้นมีความสำคัญมาก หลักๆแล้วงานของสำนักงานบัญชีก็คือจัดการเรื่องบัญชีและภาษีให้กับทางบริษัท แต่จริงๆประโยชน์ที่บริษัทได้รับอาจมีมากกว่านั้น
การจดทะเบียนพาณิชย์ (หรือบางคนเรียกว่า การจดทะเบียนการค้า) คือ หลักฐานในการประกอบธุรกิจอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งผู้ที่มีหน้าที่จดทะเบียนได้แก่
1. บุคคลธรรมดาคนเดียว (กิจการเจ้าของคนเดียว)
2. ห้างหุ้นส่วนสามัญ
เงินทุนหมุนเวียน หรือ Working capital คือ เงินทุนที่กิจการต้องใช้ในการดำเนินงานของกิจการในระยะสั้นไม่เกิน 1 ปี ซึ่งเงินทุนดังกล่าวเปรียบเสมือนน้ำหล่อเลี้ยงที่ทำให้กิจการสามารถดำเนินการต่อไปได้ จากสูตรข้างต้นหาก สินทรัพย์หมุนเวียน – หนี้สินหมุนเวียน ได้ยอดมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีแสดงว่ากิจการมีสินทรัพย์หมุนเวียนมากกว่าหนี้สินหมุนเวียน และยังคงมีสภาพคล่องที่ดีในระยะสั้น ในทางกลับกันหากคำนวณแล้วได้ยอดติบลบแสดงว่า กิจการมีสินทรัพย์หมุนเวียนน้อยกว่าหนี้สินหมุนเวียน มีสินทรัพย์ที่จะเอาไปชำระน้อยกว่าหนี้สินที่มีในระยะสั้น แสดงให้เห็นถึงสภาพคล่องที่ไม่ดีของกิจการ
งบทดลอง (Trial balance หรือ TB) คือ รายงานทางบัญชีที่สรุปยอดสิ้นงวดของแต่ละบัญชี ซึ่งจะสรุปยอดมาจากยอดสุดท้ายในบัญชีแยกประเภท
บัญชีแยกประเภท (General ledger หรือ GL) คือ รายงานทางบัญชีที่แสดงยอดเคลื่อนไหวของบัญชีใดบัญชีหนึ่ง ซึ่งจะสรุปยอดมาจากการบันทึกบัญชีในสมุดรายวัน 5 ประเภท
สมการบัญชี คือ สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ ความหมายของมันคือว่า ณ จุดเวลาหนึ่งบริษัทมีสินทรัพย์ (ฝั่งซ้ายของสมการ) เป็นจำนวนกี่บาทประกอบไปด้วยอะไรบ้าง และสินทรัพย์ทั้งหมดดังกล่าว จัดหามาโดยการก่อหนี้เป็นจำนวนกี่บาท และเป็นส่วนของเจ้าของเอง เป็นจำนวนกี่บาท (ฝั่งขวาของสมการ)
เดบิต (Debit) เครดิต (Credit) เป็นรูปแบบวิธีการในการบันทึกบัญชีในปัจจุบัน ซึ่งเป็นการบันทึกบัญชีตามหลักบัญชีคู่ คือ เมื่อมีการบันทึกบัญชีไปแล้ว 1 บัญชี จะต้องมีอีกบัญชีที่บันทึกคู่กันด้วยเสมอ