สารบัญ (Table of content)
1.1. ความหมายของสินทรัพย์ไม่มีตัวตน
1.2. ความแตกต่างระหว่างสินทรัพย์มีตัวตนและไม่มีตัวตน
2.1. สินทรัพย์ไม่มีตัวตนที่สามารถระบุได้
2.2. สินทรัพย์ไม่มีตัวตนที่ไม่สามารถระบุได้
3.1. เกณฑ์การรับรู้สินทรัพย์ไม่มีตัวตนเข้าสู่บัญชี
3.2. การวัดมูลค่าเริ่มแรก
3.3. การบันทึกบัญชีและการจัดประเภทในงบฐานะการเงิน
4.1. ค่าตัดจำหน่าย (Amortization) คืออะไร?
4.2. อายุการให้ประโยชน์ของสินทรัพย์ไม่มีตัวตน
บทนำ: ทำความรู้จักกับสินทรัพย์ไม่มีตัวตน (Intangible Assets)
สินทรัพย์ไม่มีตัวตนเป็นสินทรัพย์อีกประเภทหนึ่งที่มีความสำคัญต่องบการเงิน แต่หลายๆท่านอาจจะยังสงสัยว่าสินทรัพย์ที่ไม่มีตัวตนจะมาอยู่ในงบการเงินได้อย่างไรเพราะมันไม่สามารถจับต้องได้ วันนี้ทาง Build Me Up Consultant (BMU) จะมาไขข้อสงสัยให้ฟังกัน
ความหมายของสินทรัพย์ไม่มีตัวตน
สินทรัพย์ไม่มีตัวตนตามคำนิยามของ TFRS for NPAEs ได้ให้คำนิยามเอาไว้ว่า สินทรัพย์ที่ไม่เป็นตัวเงินที่สามารถระบุได้และไม่มีลักษณะทาง กายภาพ ตัวอย่างเช่น สินทรัพย์ทางปัญญา โปรแกรมคอมพิวเตอร์เครื่องหมายการค้า ลิขสิทธิ์สิทธิบัตร สัมปทาน และฟิล์มภาพยนตร์ เป็นต้น
หรือพูดง่ายๆเลยว่าสินทรัพย์ใดๆก็ตามที่ไม่สามารถจับต้องได้ และสามารถสร้างประโยชน์ให้แก่บริษัทได้ ถือว่าเป็นสินทรัพย์ไม่มีตัวตน
ความแตกต่างระหว่างสินทรัพย์มีตัวตนและไม่มีตัวตน
ความแตกต่างระหว่างสินทรัพย์มีตัวตนและไม่มีตัวตนคือลักษณะทางกายภาพ สินทรัพย์มีตัวตน คือ สินทรัพย์ที่มีลักษณะทางกายภาพ สามารถจับต้องได้ เช่น ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ เป็นต้น ส่วนสินทรัพย์ไม่มีตัวตนจะเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีลักษณะทางกายภาพและไม่สามารถจับต้องได้ เช่น สิทธิบัตร, ลิขสิทธิ์, แฟรนไชส์, เครื่องหมายการค้า, ตราสินค้า, สูตรการผลิต, ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ เป็นต้
ประเภทหลักของสินทรัพย์ไม่มีตัวตน
สินทรัพย์ไม่มีตัวตน สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆคือ สินทรัพย์ไม่มีตัวตนที่สามารถระบุได้ กับ สินทรัพย์ไม่มีตัวตนที่ไม่สามารถระบุได้ ตามรายละเอียดดังนี้
สินทรัพย์ไม่มีตัวตนที่สามารถระบุได้
สินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับลิขสิทธิ์และสัญญา
สินทรัพย์ไม่มีตัวตนในกลุ่มนี้ยกตัวอย่างเช่น สิทธิบัตร, ลิขสิทธิ์, แฟรนไชส์
สิทธิบัตร คือ หนังสือสำคัญ ที่รัฐออกให้เพื่อคุ้มครองการประดิษฐ์คิดค้น (Invention) หรือการออกแบบผลิตภัณฑ์ (Design) ที่มีลักษณะตามที่กฎหมายกำหนด
ลิขสิทธิ์ คือ สิทธิแต่เพียงผู้เดียว ที่กฎหมายมอบให้แก่ผู้สร้างสรรค์งาน เพื่อทำซ้ำ ดัดแปลง เผยแพร่ หรืออนุญาตให้ผู้อื่นนำงานสร้างสรรค์ของตนไปใช้ประโยชน์
แฟรนไชส์ คือ รูปแบบการขยายธุรกิจ ที่เจ้าของสิทธิ์ (แฟรนไชส์ซอร์) อนุญาตให้บุคคลอื่น (แฟรนไชส์ซี) นำเอาชื่อทางการค้า เครื่องหมายการค้า สูตรการผลิต และระบบการดำเนินงานทั้งหมดที่ผ่านการพิสูจน์แล้ว ไปทำซ้ำหรือเปิดดำเนินการในพื้นที่ที่กำหนด โดยมีการจ่ายค่าตอบแทนตามข้อตกลง
สินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการตลาด
สินทรัพย์ไม่มีตัวตนในกลุ่มนี้ยกตัวอย่างเช่น เครื่องหมายการค้า
เครื่องหมายการค้า คือ เครื่องหมาย สัญลักษณ์ ชื่อ หรือภาพ ที่ใช้แสดงหรือกำกับบนสินค้าหรือบริการ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถ แยกแยะและจดจำ สินค้าหรือบริการของผู้ประกอบการรายหนึ่ง ออกจากสินค้าหรือบริการของคู่แข่งรายอื่นได้
สินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี
สินทรัพย์ไม่มีตัวตนในกลุ่มนี้ยกตัวอย่างเช่น สูตรการผลิต, ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์
สูตรการผลิต คือ ชุดข้อมูลที่มีการจัดระบบอย่างละเอียด ซึ่งระบุถึง องค์ประกอบ, ปริมาณที่แน่นอน, และ ขั้นตอน/กรรมวิธี ที่จำเป็นทั้งหมดในการผลิตสินค้าใดสินค้าหนึ่งให้ได้มาตรฐานและคุณภาพตามที่ต้องการ
ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ คือ ชุดคำสั่ง หรือ โปรแกรมที่ใช้ในการสั่งการและควบคุมการทำงานของฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ รวมถึงเป็นชุดข้อมูลที่ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถทำงานตามที่ผู้ใช้ต้องการได้
สินทรัพย์ไม่มีตัวตนที่ไม่สามารถระบุได้
ในกรณีก่อนหน้านี้จะเป็นสินทรัพย์ไม่มีตัวตนที่สามารถระบุได้ทั้งหมดว่าคืออะไร แต่มีสิทรัพย์ไม่มีตัวตนอีกประเภทที่ไม่สามารถระบุได้ว่าคืออะไร ซึ่งจะเกิดจากในกรณีที่มีการซื้อกิจการแล้วราคาที่จ่ายซื้อนั้นมากกว่าสินทรัพย์ที่สามารถระบุได้ทั้งหมด ผลต่างที่เกิดขึ้น เราจะเรียกมันว่าค่าความนิยม
ค่าความนิยม (Goodwill) คืออะไร?
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราลงทุนซื้อหุ้นของบริษัท BMU ในราคา 10 ล้านบาท ซึ่งเราสามารถจำแนกราคาซื้อของบริษัทออกมาได้ดังนี้
-
- มูลค่าตามบัญชี หรือ ส่วนของผู้ถือหุ้น จำนวน 6 ล้านบาท (สินทรัพย์ – หนี้สิน = ส่วนของผู้ถือหุ้น)
- ตีราคามูลค่าของ สิทธิบัตร ต่างๆที่บริษัทมี จำนวน 1 ล้านบาท
- ตีราคามูลค่าของ เครื่องหมายการค้า ของบริษัท จำนวน 2 ล้านบาท
จะเห็นได้ว่าสินทรัพย์ที่สามารถระบุได้ทั้งหมดของบริษัทอยู่ที่ 6+1+2 = 9 ล้านบาท แต่ราคาที่เราจ่ายซื้อคือ 10 ล้านบาท มีส่วนต่างอยู่ 1 ล้านซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจน ซึ่งเราจะเรียกสินทรัพย์ดังกล่าวว่า ค่าความนิยม นั่นเอง
หลักการบัญชีและการรับรู้สินทรัพย์ไม่มีตัวตน (ตามมาตรฐาน TFRS for NPAEs)
เกณฑ์การรับรู้สินทรัพย์ไม่มีตัวตนเข้าสู่บัญชี
กิจการรับรู้สินทรัพย์ไม่มีตัวตนได้ก็ต่อเมื่อเข้าเกณฑ์ทุกข้อต่อไปนี้
- มีความเป็นไปได้ค่อนข้างแน่ที่กิจการจะได้รับประโยชน์เชิงเศรษฐกิจในอนาคตที่จะเกิดจากสินทรัพย์นั้น
- ราคาทุนของสินทรัพย์สามารถวัดมูลค่าได้อย่างน่าเชื่อถือ
เมื่อเข้าเงื่อนไขทั้ง 2 ข้อนี้ กิจการถึงจะรับรู้สินทรัพย์ไม่มีตัวตนในงบการเงินได้
การวัดมูลค่าเริ่มแรก
กิจการต้องวัดมูลค่าสินทรัพย์ไม่มีตัวตนเมื่อเริ่มแรกด้วยราคาทุน (นั่นคือต้นทุนที่บริษัทจ่ายไปเพื่อให้ได้สินทรัพย์ไม่มีตัวตนนั้นมานั่นเอง)
การบันทึกบัญชีและการจัดประเภทในงบฐานะการเงิน
ในการบันทึกบัญชีรับรู้สินทรัพย์ไม่มีตัวตนในงบการเงินมีวิธีการบันทึกบัญชีดังนี้
Dr. สินทรัพย์ไม่มีตัวตน xx
Cr. เงินฝากธนาคาร xx
สินทรัพย์ไม่มีตัวตนจะถูกจัดประเภทเป็นสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนในงบฐานะการเงิน
การบันทึกค่าตัดจำหน่ายของสินทรัพย์ไม่มีตัวตน
ค่าตัดจำหน่ายของสินทรัพย์ไม่มีตัวตน ก็เหมือนกับ ค่าเสื่อมราคาของที่ดิน อาคาร อุปกรณ์ นั่นคือการทยอยปันส่วนมูลค่าของสินทรัพย์ออกมาเป็นค่าใช้จ่ายตลอดอายุการใช้งานของสินทรัพย์นั้น
ค่าตัดจำหน่าย (Amortization) คืออะไร?
ค่าตัดจำหน่าย คือ การปันส่วนจำนวนที่คิดค่าตัดจำหน่ายของสินทรัพย์ไม่มีตัวตนอย่างมีระบบตลอดอายุการใช้ประโยชน์ของสินทรัพย์ไม่มีตัวตน กิจการต้องเริ่มตัดจำหน่ายสินทรัพย์ไม่มีตัวตนเมื่อสินทรัพย์นั้น พร้อมที่ให้ประโยชน์ได้ โดยปกติแล้วการคิดค่าตัดจำหน่ายจะคำนวณแบบเส้นตรง
ยกตัวอย่างเช่น บริษัทซื้อซอฟแวร์ในการผลิตเป็นจำนวน 1,000,000 บาท บริษัทประเมินอายุการให้ประโยชน์ที่ 10 ปี ดังนั้นค่าตัดจำหน่าย/ปี จะอยู่ที่ 1,000,000 / 10 = 100,000 บาท/ปี
อายุการให้ประโยชน์ของสินทรัพย์ไม่มีตัวตน
หากสินทรัพย์ไม่มีตัวตนนั้นมีอายุการใช้ประโยชน์ทราบได้แน่นอน ให้กิจการตัดจำหน่ายสินทรัพย์ตลอดอายุการใช้ประโยชน์ที่ทราบได้แน่นอนนั้น ส่วนสินทรัพย์ไม่มีตัวตนที่อายุการใช้ประโยชน์ไม่ทราบได้แน่นอนให้กิจการกำหนดอายุการใช้ประโยชน์ไม่เกิน 10 ปี
บทสรุป
สินทรัพย์ไม่มีตัวตน คือ สินทรัพย์ที่สามารถระบุได้และไม่มีลักษณะทาง กายภาพ ตัวอย่างเช่น สินทรัพย์ทางปัญญา โปรแกรมคอมพิวเตอร์ เครื่องหมายการค้า ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร สัมปทาน และฟิล์มภาพยนตร์เป็นต้น ซึ่งสินทรัพย์เหล่านี้ก่อให้เกิดประโยชน์เชิงเศรษฐกิจในอนาคตต่อกิจการ โดยทุกปีจะต้องมีการบันทึกค่าตัดจำหน่ายโดยการปันส่วนอย่างเป็นระบบตลอดอายุการให้ประโยชน์ของสินทรัพย์ไม่มีตัวตนนั้น


