อัพเดทการหักค่าลดหย่อนบุคคลธรรมดาปี 2567

ปกบทความอัพเดทการหักค่าลดหย่อนบุคคลธรรมดาปี 2567

          ค่าลดหย่อนเป็นรายการหักจากเงินได้พึงประเมินเพื่อคำนวณเงินได้สุทธิในการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งการหักค่าลดหย่อนจะทำให้เราเสียภาษีเงินได้ลดลง ดังนั้นในการวางแผนภาษีเราจึงควรหาค่าลดหย่อนมาหักออกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยที่ไม่สร้างภาระทางการเงินที่มากจนเกินไป เรามาดูอัพเดทค่าลดหย่อนประจำปี 2567 กันดังนี้

  1. ค่าลดหย่อนส่วนตัวหักได้ 60,000 บาท ต่อปี
  2. ค่าลดหย่อนคู่สมรสหักได้ 60,000 บาท (กรณีคู่สมรสไม่มีเงินได้หรือมีเงินได้แต่ไม่ได้แยกคำนวณภาษี และกฎหมายอนุญาตให้มีได้สูงสุด 1 คน) ต่อปี
  3. ค่าลดหย่อนบุตรหักได้ 30,000 บาท ต่อปี หากมีลูกคนที่ 2 ที่เกิดตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นไป สามารถหักค่าลดหย่อนลูกคนที่ 2 เป็นต้นไปได้คนละ 60,000 บาท ต่อปี
  4. ค่าลดหย่อนบิดา มารดา หักได้คนละ 30,000 บาทต่อปี ซึ่งมีเงื่อนไขดังต่อไปนี้
    • เราเป็นลูกแท้ๆที่ถูกต้องตามกฎหมาย (ลูกบุญธรรมไม่มีสิทธิ์)
    • พ่อ แม่ จะต้องมีอายุครบหรือเกินกว่า 60 ปี ในรอบปีการเสียภาษี
    • พ่อแม่อยู่ในความดูแลของเรา
    • พ่อ แม่ มีรายได้ตลอดทั้งปีไม่เกิน 30,000 บาท
    • พ่อ หรือ แม่ คนใดคนหนึ่งต้องอยู่ในไทยเกิน 180 วัน ในปีภาษีนั้น
    • หาก พ่อ แม่ มีลูกหลายคน ตอนใช้สิทธิ์ ลูกต้องตกลงกันก่อนว่าใครจะใช้สิทธิ์ของใคร เนื่องจากพ่อหรือแม่ 1 คน เท่ากับ 1 สิทธิ์เท่านั้นไม่สามารถแบ่งได้
  5. ค่าลดหย่อนผู้พิการหรือทุพพลภาพหักได้ 60,000 บาทต่อปี สำหรับผู้ที่ดูแลผู้พิการหรือทุพพลภาพนั้น
  6. ลดหย่อนค่าฝากครรภ์และคลอดบุตรหักได้ ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 60,000 บาท
    • หากมีลูกแฝดจะถือว่าเป็นครรภ์เดียว
    • หากสามี ภรรยา แยกยื่นภาษี ภรรยาสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนนี้ได้คนเดียวเท่านั้น
  7. ค่าลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิตทั่วไป / เงินฝากแบบมีประกันชีวิต หักได้ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท ยกตัวอย่างประกันประเภทดังกล่าว เช่น ประกันชีวิตแบบออมทรัพย์/สะสมทรัพย์, ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา, ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ, เงินฝากแบบมีประกันชีวิต เป็นต้น ส่วนกรณีเบี้ยประกันชีวิตแบบทั่วไปของคู่สมรสที่ไม่มีรายได้ หักลดหย่อนได้ตามจริงแต่ไม่เกิน 10,000 บาท
  8. ค่าลดหย่อนเบี้ยประกันสุขภาพบิดา มารดา หักได้ตามจริงแต่ไม่เกิน 15,000 บาท
  9. ค่าลดหย่อนเบี้ยประกันสุขภาพตนเอง หักได้ตามจริงแต่ไม่เกิน 25,000 บาท และเมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตแบบทั่วไปแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท
  10. ค่าลดหย่อนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ / กบข. หักได้ตามจริงแต่ไม่เกิน 15% ของเงินเดือน แต่หากเป็นกรณี กบข.จะได้สูงสุด 30% ของเงินเดือน และเมื่อรวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกิน 500,000 บาท
  11. ค่าลดหย่อนกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) หักได้ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี และเมื่อรวมกับ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ / กบข. แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท
  12. ค่าลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ หักได้ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี แต่ไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ / กบข. และ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท
  13. ค่าลดหย่อนเงินประกันสังคม หักได้ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 9,000 บาท
  14. ค่าลดหย่อนกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) หักได้ตามจริงแต่ไม่เกิน 30,000 บาท และเมื่อรวมกับ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ / กบข. และ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และ เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท
  15. ค่าลดหย่อนกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) หักได้ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี และไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ / กบข. และ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และ เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ และ กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท
  16. ค่าลดหย่อนดอกเบี้ยจากการซื้อที่อยู่อาศัย หักได้ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท
  17. ค่าลดหย่อนเงินบริจาคพรรคการเมือง หักได้ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 10,000 บาท
  18. ค่าลดหย่อนเงินลงทุนในธุรกิจ วิสาหกิจเพื่อสังคม (Social enterprise) หักได้ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท
  19. ค่าลดหย่อน Easy E-Receipt หักได้ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 50,000 บาท คือค่าซื้อสินค้าหรือบริการในประเทศที่ซื้อตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2567 เฉพาะที่มีใบกำกับภาษีและใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice / e-Receipt)
  20. ค่าลดหย่อนกองทุนไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) หักได้ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี และไม่เกิน 100,000 บาท
  21. ค่าลดหย่อนค่าสร้างบ้านใหม่ ที่ได้ทำสัญญาจ้างและดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2567 ถึง 31 ธันวาคม 2568 หักได้ 10,000 บาท ต่อจำนวนค่าก่อสร้างบ้านใหม่ที่จ่ายจริงทุก 1 ล้านบาท แต่รวมแล้วไม่เกิน 100,000 บาท
  22. ค่าลดหย่อนเงินบริจาคเพื่อการศึกษา การกีฬา การพัฒนาสังคม และโรงพยาบาลรัฐ หักได้ 2 เท่าของเงินบริจาคตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าลดหย่อนตั้งแต่ข้อ 1 ถึง 22
  23. เงินบริจาคทั่วไป (ให้แก่วัด สถานศึกษาของราชการ องค์การของรัฐบาล สถานศึกษาเอกชน องค์กรการกุศล) หักได้ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 10% ของรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อนอื่นๆ
This site uses cookies to offer you a better browsing experience. By browsing this website, you agree to our use of cookies.