สารบัญ
- ห้างหุ้นส่วนสามัญ (หสม.) คืออะไร?
- ลักษณะสำคัญของห้างหุ้นส่วนสามัญ (หสม.)
- ประเภทของห้างหุ้นส่วนสามัญ (หสม.)
- ควรเปิดห้างหุ้นส่วนสามัญ (หสม.) ในกรณีใดบ้าง
- เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง ห้างหุ้นส่วนสามัญ (หสม.) และ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.)
- สรุป
ห้างหุ้นส่วนสามัญ (หสม.) คืออะไร?
ห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือ หสม. คือ บุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปตกลงเข้ากันเพื่อกระทำกิจการร่วมกัน โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะแบ่งปันกำไรที่ได้จากกิจการที่ทำนั้น ยกตัวอย่างเช่น
- การเข้าร่วมกันเปิดบัญชีเงินฝากธนาคาร เช่น บัญชีเงินฝากนาง A และนาย B เป็นต้น เพื่อทำธุรกิจและรับเงินร่วมกัน
- การเข้าร่วมกันซื้อหุ้น เช่น นาย A และนาย B เข้าร่วมกันเป็น ห้างหุ้นส่วนสามัญ (หสม.) เพื่อซื้อหุ้น
- การเข้าร่วมกันของนักแสดง นักร้องหรือพิธีกรในการรับงาน เช่น นักแสดง A ร่วมกับนักร้อง B เป็นต้น
- การเข้าร่วมกันถือกรรมสิทธิ์ในที่ดิน เช่น นาย A นาง B และ นาย C ซื้อที่ดินร่วมกัน เพื่อหารายได้จากค่าเช่าร่วมกัน
เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่นี่
ลักษณะสำคัญของห้างหุ้นส่วนสามัญ (หสม.)
- ห้างหุ้นส่วนสามัญ (หสม.) จะมีหุ้นส่วนประเภทเดียวคือ หุ้นส่วนที่ไม่จำกัดความรับผิด กล่าวคือ หาก หสม.ทำธุรกิจและไปก่อหนี้ก่อสินที่ หสม.ไม่สามารถใช้คืนเจ้าหนี้ได้ ทางหุ้นส่วนทุกคนก็ต้องร่วมกันใช้หนี้อย่างไม่จำกัด
- ห้างหุ้นส่วนสามัญ (หสม.) จะจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือไม่ก็ได้ หากจดทะเบียนเราจะเรียกว่า “ห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียน” ซึ่งมีสถานะเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย แต่หากไม่ได้จดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เราจะเรียกว่า “ห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียน” ซึ่งจะมีสถานะเป็นบุคคลธรรมดา แต่ก็ต้องไปยื่นขอเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของห้างกับกรมสรรพากร
ประเภทของห้างหุ้นส่วนสามัญ (หสม.)
ห้างหุ้นส่วนสามัญ (หสม.) แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
- ห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียน
- จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
- มีสถานะเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย
- มีหน้าที่ในการจัดทำบัญชี และนำส่งงบการเงิน
- เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลโดยคำนวณจากกำไรสุทธิทางภาษี
- ชื่อนำหน้าจะมีคำว่า “ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล”
- ห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียน
- ไม่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า แต่ต้องขอเลขประจำตัวผู้เสียภาษีกับกรมสรรพากรภายใน 60 วัน นับจากวันที่มีเงินได้
- มีสถานะเป็นบุคคลธรรมดา
- ไม่ต้องทำบัญชี และนำส่งงบการเงิน แต่ต้องจัดทำรายงานแสดงรายได้และรายจ่ายตามรูปแบบที่สรรพากรกำหนดดังนี้
- เสียภาษีเงินได้แบบบุคคลธรรมดาโดยคำนวณภาษีจากเงินได้สุทธิ
- ชื่อนำหน้าจะมีคำว่า “ห้างหุ้นส่วนสามัญ”
สำหรับวิธีการคำนวณภาษีบุคคลธรรมดาของห้างหุ้นส่วนสามัญแบบละเอียด อ่านได้ที่นี่เลย : คู่มือภาษีห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคล
ควรเปิดห้างหุ้นส่วนสามัญ (หสม.) ในกรณีใดบ้าง
ในความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนหากเลือกจะเป็นนิติบุคคลแล้วควรเลือกเปิดเป็นบริษัทจำกัดไปเลย เนื่องจากผู้ถือหุ้นทุกคนรับผิดจำกัด แต่หากเราเปิดเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียน ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนจะรับผิดไม่จำกัดซึ่งเป็นข้อเสียเปรียบอย่างมากสำหรับห้างประเภทนี้
อย่างไรก็ตามมีบางกรณีที่อาจจะต้องเปิดเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญ (ไม่จดทะเบียน) ยกตัวอย่างที่ผู้เขียนเคยเจอมาเช่น
- นาย ก และ นาย ข เป็นเจ้าของที่ดินร่วมกัน (ถือกรรมสิทธิ์ร่วมกัน) ต่อมาได้มีการขายที่ดินออกมา ดังนั้นเงินได้ที่ได้รับมาจะถือเป็นของใครคนใดคนหนึ่งไม่ได้ แต่จะต้องเป็นเงินได้ของ 2 คนร่วมกัน ดังนั้น นาย ก และ นาย ข จึงต้องไปยื่นขอเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของห้างหุ้นส่วนสามัญกับสรรพากรเพื่อรับรายได้จากการขายที่ดินในส่วนนี้ เป็นต้น
- นาย ก และ นาย ข เป็นเจ้าของที่ดินร่วมกัน (ถือกรรมสิทธิ์ร่วมกัน) ต่อมาได้มีการปล่อยที่ดินให้เช่า ดังนั้นเงินได้ที่ได้รับมาจะถือเป็นของใครคนใดคนหนึ่งไม่ได้ แต่จะต้องเป็นเงินได้ของ 2 คนร่วมกัน ดังนั้น นาย ก และ นาย ข จึงต้องไปยื่นขอเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของห้างหุ้นส่วนสามัญกับสรรพากรเพื่อรับรายได้ค่าเช่าที่ดินในส่วนนี้ เป็นต้น
เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง ห้างหุ้นส่วนสามัญ (หสม.) และ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.)
ความแตกต่างของ หสม. และ หจก. มีดังต่อไปนี้
สรุป
ห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือ หสม. เป็นการจัดตั้งโดยบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ตกลงเข้ากันเพื่อกระทำกิจการร่วมกัน โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะแบ่งปันกำไรที่ได้จากกิจการที่ทำนั้น สามารถแบ่งได้ออกเป็น 2 ประเภทคือ
- ห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียน – มีสถานะเป็นนิติบุคคล
- ห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียน – มีสถานะเป็นบุคคลธรรมดา
ลักษณะที่สำคัญอย่างหนึ่งของห้างหุ้นส่วนสามัญ คือผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนจะรับผิดไม่จำกัด หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกท่านนะครับ