เมื่อธุรกิจของคุณเติบโตขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการขายของออนไลน์ที่กำลังไปได้ดี หรือการเป็นฟรีแลนซ์ที่มีลูกค้าเข้ามาไม่ขาดสาย การจด VAT บุคคลธรรมดาคืออีกเรื่องสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจ แม้จะดูซับซ้อน แต่ก็เป็นบันไดอีกขั้นสู่ความเป็นมืออาชีพ วันนี้ Build Me Up Consultant ได้รวบรวมข้อมูลสำคัญมาให้ เพื่อเป็นแนวทางให้กับทุกคน
จด VAT บุคคลธรรมดา คืออะไร
การจด VAT บุคคลธรรมดา คือ การที่ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจในนามของตัวเอง ไม่ได้จดทะเบียนเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วน ต้องเข้าไปอยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ของกรมสรรพากร เมื่อมีรายได้ถึงเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ทำให้มีหน้าที่เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% จากลูกค้าที่ซื้อสินค้าหรือบริการ และนำส่งภาษีนั้นให้กับภาครัฐ
ใครบ้างที่ต้องจด VAT ในฐานะบุคคลธรรมดา
ไม่ใช่บุคคลธรรมดาทุกคนที่จะต้องจด VAT แต่มีเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างชัดเจน ซึ่งผู้ประกอบการควรตรวจสอบธุรกิจของตัวเองอยู่เสมอว่าเข้าเกณฑ์เหล่านี้แล้วหรือยัง
เงื่อนไขด้านรายได้
หัวใจสำคัญที่สุดคือเรื่องของรายได้ หากคุณมีรายรับจากการขายสินค้าหรือให้บริการ (ที่ไม่ได้รับการยกเว้น VAT) เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี (นับตามปีปฏิทิน) คุณมีหน้าที่ต้องไปยื่นคำขอจด VAT บุคคลธรรมดาภายใน 30 วันนับแต่วันที่มีรายรับเกินเกณฑ์ดังกล่าว
ประเภทกิจการที่ต้องจด VAT
โดยทั่วไปแล้ว กิจการที่ขายสินค้าหรือให้บริการส่วนใหญ่เมื่อรายได้เกินเกณฑ์ก็ต้องจด VAT ทั้งสิ้น ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในปัจจุบัน ได้แก่
- ร้านค้าออนไลน์ที่ขายสินค้าบนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Shopee Lazada TikTok Shop
- ฟรีแลนซ์ที่มีรายได้จากงานบริการสูง เช่น โปรแกรมเมอร์ นักการตลาด กราฟิกดีไซเนอร์
- คอนเทนต์ครีเอเตอร์ Youtuber Tiktoker ที่มีรายได้จากสปอนเซอร์หรือการขายสินค้า
- ผู้ประกอบอาชีพอิสระอื่น ๆ ที่มีรายได้ถึงเกณฑ์
จด VAT บุคคลธรรมดา มีข้อดีและข้อควรพิจารณาอะไรบ้าง
การจด VAT บุคคลธรรมดา มีทั้งประโยชน์ที่ช่วยให้ธุรกิจดูเป็นมืออาชีพขึ้น และมีหน้าที่ความรับผิดชอบที่เพิ่มตามมา การทำความเข้าใจทั้งสองด้านจะช่วยให้คุณเตรียมตัวได้ดีขึ้น
ข้อดีของการจด VAT บุคคลธรรมดา
- สร้างความน่าเชื่อถือ : การอยู่ในระบบ VAT ทำให้ลูกค้า โดยเฉพาะลูกค้าระดับองค์กร เชื่อมั่นและตัดสินใจซื้อขายกับเราง่ายขึ้น
- ออกใบกำกับภาษีได้ : สามารถออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปให้ลูกค้า เพื่อให้ลูกค้านำไปใช้ประโยชน์ทางภาษีต่อได้
- ขอคืนภาษีซื้อได้ : สามารถนำภาษีซื้อ (VAT ที่เราจ่ายไปตอนซื้อของมาทำธุรกิจ) มาหักลบจากภาษีขาย (VAT ที่เราเก็บจากลูกค้า) ทำให้ช่วยลดภาระภาษีที่ต้องจ่ายได้
ข้อควรรู้ของการจด VAT บุคคลธรรมดา
- มีงานเอกสารเพิ่มขึ้น : ต้องจัดทำรายงานภาษีซื้อ รายงานภาษีขาย และเก็บรักษาใบกำกับภาษีอย่างเป็นระบบ
- ต้องยื่นแบบ ภ.พ.30 ทุกเดือน : แม้ว่าเดือนนั้นจะไม่มีรายได้เลยก็ตาม คุณก็ยังคงมีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่มภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป
- ราคาสินค้า/บริการสูงขึ้น : ต้องบวก VAT 7% เพิ่มเข้าไปในราคา ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจของลูกค้าบางกลุ่ม
ขั้นตอนการจด VAT บุคคลธรรมดาที่สามารถทำได้
เมื่อตัดสินใจและเตรียมตัวพร้อมแล้ว ขั้นตอนการจด VAT บุคคลธรรมดาก็ไม่ซับซ้อนอย่างที่คิด ปัจจุบันสามารถทำได้ 2 วิธีหลัก ๆ ดังนี้
1. การจด VAT ออนไลน์ผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากร
เป็นวิธีที่สะดวกสบาย เพียงเข้าไปที่เว็บไซต์ของกรมสรรพากร กรอกข้อมูลในแบบฟอร์ม ภ.พ.01 ผ่านระบบออนไลน์ จากนั้นสแกนและอัปโหลดเอกสารที่จำเป็นทั้งหมด เมื่อยื่นเรื่องเรียบร้อยก็รอเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับเพื่อยื่นเอกสารเพิ่มเติม และรอการอนุมัติได้เลย ซึ่งช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางได้มาก
2. การยื่นเอกสารด้วยตนเองที่สำนักงานสรรพากร
สำหรับใครที่สะดวกเดินทาง สามารถรวบรวมเอกสารฉบับจริงและสำเนาทั้งหมด แล้วนำไปยื่นด้วยตนเองได้ที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา ที่สถานประกอบการของคุณตั้งอยู่ เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเอกสารและดำเนินการรับเรื่องไว้ ซึ่งหากเอกสารครบถ้วนก็จะใช้เวลาไม่นานเช่นกัน
เอกสารที่ต้องใช้สำหรับจด VAT บุคคลธรรมดา
การเตรียมเอกสารให้พร้อมจะทำให้ทุกอย่างรวดเร็วขึ้น สำหรับการจด VAT บุคคลธรรมดา กรมสรรพากรต้องการเอกสารเพื่อยืนยันตัวตนและที่ตั้งสถานประกอบการของคุณ โดยมีเอกสารหลัก ๆ ที่ต้องเตรียม ดังนี้
- แบบคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.01) จำนวน 3 ฉบับ
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ประกอบการ
- สำเนาทะเบียนบ้านที่ใช้เป็นที่ตั้งของสถานประกอบการ
- สำเนาสัญญาเช่า (กรณีเช่า) หรือหนังสือยินยอมให้ใช้สถานที่ (กรณีเจ้าของยินยอม)
- แผนที่แสดงที่ตั้งของสถานประกอบการโดยสังเขป
- ภาพถ่ายสถานประกอบการ ที่เห็นป้ายชื่อร้าน (ถ้ามี) และเลขที่บ้านชัดเจน
จด VAT บุคคลธรรมดาแล้วต้องทำอะไรต่อ สรุปหน้าที่ที่ต้องรู้
การจด VAT บุคคลธรรมดาเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น หลังจากนั้นคุณจะมีหน้าที่ใหม่ในฐานะผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ต้องปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย
- ออกใบกำกับภาษี : ต้องออกใบกำกับภาษีทุกครั้งที่มีการขายสินค้าหรือให้บริการ
- จัดทำรายงานภาษี : ต้องทำรายงานภาษีซื้อและภาษีขาย เพื่อสรุปยอด VAT ที่เกิดขึ้นในแต่ละเดือน
- ยื่นแบบ ภ.พ.30 : นำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม (ถ้ามี) ด้วยแบบ ภ.พ.30 ให้กรมสรรพากรเป็นรายเดือน ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป (ยื่นออนไลน์ได้ถึงวันที่ 23)
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการจด VAT บุคคลธรรมดา
บุคคลธรรมดา จด VAT ต้องยื่นงบการเงินไหม
การยื่นงบการเงินเป็นหน้าที่ของนิติบุคคล (บริษัท, ห้างหุ้นส่วน) สำหรับบุคคลธรรมดา แม้จะจด VAT บุคคลธรรมดาแล้ว ก็ยังคงมีหน้าที่ยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี (ภ.ง.ด.90/91) เหมือนเดิม ไม่ต้องทำงบการเงินส่ง
บุคคลธรรมดา จด VAT ดีไหม
หากลูกค้าส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่ต้องการใบกำกับภาษี การจด VAT จะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ แต่หากลูกค้าเป็นบุคคลทั่วไป การบวก VAT 7% อาจทำให้ราคาขายสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม หากรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท การจด VAT ถือเป็นหน้าที่ตามกฎหมาย
รายได้เท่าไหร่ถึงต้องจด VAT
เมื่อมีรายรับจากการประกอบธุรกิจ (ที่ไม่ได้รับการยกเว้น) เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี โดยให้นับรายรับทั้งหมดก่อนหักค่าใช้จ่ายใด ๆ และต้องยื่นคำขอจดทะเบียนภายใน 30 วันหลังจากวันที่รายรับเกิน
บุคคลธรรมดารายได้ เกิน 1.8 ล้าน ต้องจด VAT ไหม
การจด VAT บุคคลธรรมดาถือเป็นข้อบังคับตามกฎหมาย หากผู้ประกอบการมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปีแล้ว แต่ยังไม่ได้ดำเนินการจด VAT บุคคลธรรมดา หากกรมสรรพากรตรวจพบ อาจมีโทษทั้งเบี้ยปรับและเงินเพิ่มย้อนหลังได้
เปลี่ยนการจด VAT บุคคลธรรมดาให้ง่ายขึ้นด้วยบริการจาก Build Me Up Consultant
จะเห็นได้ว่าการจด VAT บุคคลธรรมดา มีรายละเอียดหลายขั้นตอนที่ต้องใส่ใจ ตั้งแต่การเตรียมเอกสารไปจนถึงหน้าที่ความรับผิดชอบรายเดือนที่ตามมา หากคุณไม่อยากเสียเวลากับความยุ่งยากเหล่านี้ หรือต้องการที่ปรึกษาที่เชี่ยวชาญเพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างถูกต้อง ให้ Build Me Up Consultant พร้อมให้บริการแบบครบวงจรและทีมงานผู้มีประสบการณ์ เราพร้อมดูแลขั้นตอนการจด VAT บุคคลธรรมดา และประสานงานกับหน่วยงานราชการแทนคุณ ทำให้เรื่องภาษีที่ซับซ้อนกลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ ติดต่อสอบถามบริการเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0925863663 , 021245303 Facebook : Build Me Up Consultant Line : @bmu001