การตัดสินใจปิดบริษัทหรือเลิกกิจการนับเป็นก้าวที่สำคัญและเต็มไปด้วยรายละเอียดทางกฎหมาย การเตรียมตัวที่ดีและเข้าใจขั้นตอนทั้งหมดจะช่วยให้กระบวนการราบรื่นและไร้ปัญหาตามมา Build Me Up Consultant ได้รวบรวมข้อมูลสำคัญมาให้ในวันนี้ เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ประกอบการทุกท่าน ตั้งแต่การเตรียมเอกสารไปจนถึงขั้นตอนการชำระบัญชีให้เสร็จสมบูรณ์
ปิดบัญชีบริษัทใช้เอกสารอะไรบ้าง? ต้องไปติดต่อกี่หน่วยงาน
การปิดบริษัทไม่ได้จบแค่การยื่นเอกสารที่เดียว แต่ต้องติดต่อประสานงานกับหน่วยงานราชการหลัก 3 แห่ง ซึ่งแต่ละแห่งก็ต้องการเอกสารที่แตกต่างกัน การเตรียมเอกสารให้พร้อมจึงเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ทุกอย่างรวดเร็วขึ้น ดังนี้
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD)
คุณต้องมาติดต่อที่นี่เพื่อแจ้งการเลิกบริษัทและแจ้งเสร็จสิ้นกระบวนการชำระบัญชี ถือเป็นการสิ้นสุดสถานะนิติบุคคลของบริษัทอย่างเป็นทางการ
เอกสารที่ต้องใช้ตอนจดทะเบียนเลิกบริษัท
- คำขอจดทะเบียนเลิก (แบบ ลช.1)
- รายการจดทะเบียนเลิก (แบบ ลช.2)
- สำเนารายงานการประชุมผู้ถือหุ้น ที่มีมติพิเศษให้เลิกบริษัท
- บัตรประชาชนของผู้ชำระบัญชี
- หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี)
เอกสารที่ต้องใช้ตอนจดเสร็จชำระบัญชี
- แบบคำขอจดทะเบียนเลิก (แบบ ลช.1)
- รายงานการชำระบัญชี (แบบ ลช.3)
- รายการจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี (แบบ ลช.5)
- งบการเงิน ณ วันเลิกบริษัท (หรือ งบการเงิน ณ วันที่นายทะเบียนรับจดทะเบียนเลิกบริษัทก็ได้)
- รายละเอียดสมุดบัญชีและสรรพเอกสารทั้งหลาย (แบบ ลช.6)
- แบบรับรองการตรวจสอบบัญชีของกรมสรรพากร
- สำเนาบัตรประจำตัวของผู้ชำระบัญชีที่ลงชื่อในคำขอจดทะเบียน
- สำเนาหลักฐานการเป็นผู้รับรองลายมือชื่อ (ถ้ามี)
- หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี)
กรมสรรพากร
หลังจากจดทะเบียนเลิกกับ DBD แล้ว ต้องมาติดต่อกรมสรรพากรเพื่อเคลียร์ภาระทางภาษีทั้งหมด และคืนบัตรประจำตัวผู้เสียภาษี เพื่อให้แน่ใจว่าบริษัทไม่มีหนี้สินทางภาษีคงค้าง โดยมีเอกสารที่ต้องเตรียม ดังนี้
- แบบคำขอแจ้งเปลี่ยนแปลงการจดทะเบียน (ภ.พ.09) เพื่อแจ้งเลิกและคืนใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
- แบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด.50) สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีสุดท้าย
- แบบแสดงรายการภาษีหัก ณ ที่จ่าย (ภ.ง.ด.1, 3, 53) ที่ยังค้างชำระ (ถ้ามี)
- แบบแสดงรายการภาษีธุรกิจเฉพาะ (ภ.ธ.40) (ถ้ามี)
- บัตรประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของนิติบุคคล (ฉบับจริง)
- หนังสือรับรองการจดทะเบียนเลิกจาก DBD
- งบการเงิน ณ วันเลิกบริษัท
สำนักงานประกันสังคม
หากบริษัทของคุณมีการจ้างพนักงานและขึ้นทะเบียนนายจ้างไว้ จะต้องมาแจ้งการเลิกจ้างและแจ้งสิ้นสุดสถานะการเป็นนายจ้าง เพื่อจัดการเรื่องสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนให้เรียบร้อย โดยมีเอกสารที่ต้องเตรียม ดังนี้
- แบบแจ้งการเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงนายจ้าง (สปส.6-15)
- แบบแจ้งสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนของลูกจ้าง (สปส.6-09)
- สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนเลิกบริษัท
- หนังสือมอบอำนาจ (กรณีให้ผู้อื่นดำเนินการแทน)
5 ขั้นตอนเลิกกิจการและชำระบัญชีอย่างถูกต้อง
นอกจากการเตรียมเอกสารแล้ว การทำความเข้าใจภาพรวมของกระบวนการทั้งหมดก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้คุณสามารถวางแผนและดำเนินการได้อย่างถูกลำดับ ไม่ติดขัด และนี่คือ 5 ขั้นตอนหลักที่ทุกบริษัทต้องเจอ
1. จัดประชุมผู้ถือหุ้น ลงมติ และจดทะเบียนเลิกบริษัท
เริ่มต้นด้วยการออกหนังสือนัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น เพื่อลงมติพิเศษให้เลิกบริษัทด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 จากนั้นผู้ชำระบัญชีที่ได้รับการแต่งตั้ง จะต้องนำรายงานการประชุมไปยื่นจดทะเบียนเลิกบริษัทที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าภายใน 14 วันนับจากวันที่มีมติ
2. ประกาศเลิกกิจการและส่งหนังสือแจ้งเจ้าหนี้
เมื่อจดทะเบียนเลิกแล้ว ต้องประกาศข่าวการเลิกกิจการในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น และส่งจดหมาย (ไปรษณีย์ตอบรับ) แจ้งไปยังเจ้าหนี้ของบริษัท (ถ้ามี) เพื่อให้เจ้าหนี้รับทราบและยื่นคำทวงหนี้ตามกฎหมาย ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากในการชำระบัญชี
3. จัดการทรัพย์สิน หนี้สิน และคืนทุนผู้ถือหุ้น
ผู้ชำระบัญชีมีหน้าที่รวบรวมทรัพย์สินของบริษัท เช่น ขายสินค้าคงคลัง เรียกเก็บเงินจากลูกหนี้ จากนั้นนำเงินที่ได้ไปชำระหนี้สินให้กับเจ้าหนี้ทั้งหมด เมื่อจัดการหนี้สินครบถ้วนแล้ว หากมีเงินสดหรือทรัพย์สินเหลือ จึงจะทำการคืนทุนให้กับผู้ถือหุ้นตามสัดส่วน
4. ยื่นภาษีและแจ้งเลิกกิจการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ขั้นตอนนี้คือการเคลียร์ภาระผูกพันกับหน่วยงานราชการให้เสร็จสิ้นทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการยื่นแบบภาษีที่คงค้างกับกรมสรรพากรให้ครบถ้วน รวมถึงการแจ้งเลิกจ้างพนักงานและสิ้นสุดสถานะนายจ้างกับสำนักงานประกันสังคมตามที่กล่าวไปข้างต้น
5. จัดประชุมอนุมัติรายงานและจดทะเบียน “เสร็จการชำระบัญชี”
เมื่อจัดการทรัพย์สินและหนี้สินทั้งหมดแล้ว ผู้ชำระบัญชีจะจัดทำรายงานสรุปผลการชำระบัญชี และเรียกประชุมผู้ถือหุ้นอีกครั้งเพื่ออนุมัติรายงานฉบับดังกล่าว จากนั้นจึงนำมติที่ประชุมไปยื่นจดทะเบียน “เสร็จการชำระบัญชี” ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ถือเป็นการสิ้นสุดกระบวนการอย่างสมบูรณ์
หากเลิกกิจการ แต่ไม่เสร็จการชำระบัญชี จะเกิดอะไรขึ้น?
หลายคนเข้าใจผิดว่าการจดทะเบียน “เลิก” ถือเป็นอันสิ้นสุด แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ หากคุณเลิกกิจการ แต่ไม่เสร็จการชำระบัญชี สถานะของบริษัทจะยังไม่สิ้นสุดลง ยังคงมีหน้าที่ต้องยื่นงบการเงินและแบบภาษีประจำปีเช่นเดิม หากละเลยอาจถูกเรียกตรวจสอบและมีโทษปรับตามกฎหมายได้ ดังนั้น การทำให้ครบทุกขั้นตอนจึงเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเลิกกิจการ/ปิดบริษัท
ปิดบริษัทใช้เวลานานเท่าไหร่
ระยะเวลาขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของแต่ละบริษัท หากไม่มีหนี้สินหรือทรัพย์สินที่ต้องจัดการมากนัก กระบวนการทั้งหมดอาจใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน แต่หากมีประเด็นที่ต้องจัดการมาก ก็อาจใช้เวลานานกว่านั้นได้
มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้างในการเลิกกิจการ
ค่าใช้จ่ายหลักประกอบด้วย ค่าธรรมเนียมราชการในการจดทะเบียนเลิกและเสร็จการชำระบัญชี ค่าลงประกาศในหนังสือพิมพ์ ค่าบริการจัดทำบัญชี และตรวจสอบบัญชีโดยผู้สอบบัญชีสำหรับงบ ณ วันเลิก ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายโดยประมาณ 15,000 บาทขึ้นไป
หากบริษัทไม่มีทรัพย์สินหรือหนี้สินแล้ว จะปิดง่ายขึ้นหรือไม่
ง่ายขึ้นในขั้นตอนการชำระบัญชี เพราะไม่ต้องเสียเวลาจัดการเรื่องทรัพย์สินและหนี้สิน แต่บริษัทยังคงต้องดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายให้ครบถ้วน ตั้งแต่การประชุมผู้ถือหุ้น การจดทะเบียนเลิก ไปจนถึงการจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี ไม่สามารถข้ามขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งได้
ปิดบริษัทไม่ใช่เรื่องง่าย ให้ Build Me Up Consultant ช่วยดูแล
จะเห็นได้ว่า ปัญหาปิดบัญชีบริษัทใช้เอกสารอะไรบ้าง และขั้นตอนการเลิกกิจการมีรายละเอียดค่อนข้างมาก หากคุณไม่อยากปวดหัวกับความยุ่งยากเหล่านี้ ให้ Build Me Up Consultant สำนักงานบัญชีดิจิทัลดูแลสิครับ ด้วยบริการแบบครบวงจรและทีมงานผู้มีประสบการณ์กว่า 25 คน เราพร้อมประสานงานกับทุกหน่วยงานราชการแทนคุณ ผ่านระบบออนไลน์ 100% ให้การปิดบริษัทของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและถูกต้องที่สุด ติดต่อสอบถามบริการเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0925863663 , 021245303 Facebook : Build Me Up Consultant Line : @bmu001