รับทำบัญชี

สำนักงานบัญชีบิลด์มีอัพ ให้บริการรับทำบัญชีครบวงจร
โดยเจ้าหน้าที่ผู้เชียวชาญ ปัจจุบันดูแลบัญชีมากกว่า 300 บริษัท
ราคาเริ่มต้น 3,000 บาท (ราคาไม่รวม VAT)

สนใจทำกับ BMU
รับทำบัญชี by BMU

รับทำบัญชี

สำนักงานบัญชีบิลด์มีอัพ ให้บริการรับทำบัญชีครบวงจร
โดยเจ้าหน้าที่ผู้เชียวชาญ ปัจจุบันดูแลบัญชีมากกว่า 300 บริษัท
ราคาเริ่มต้น 3,000 บาท (ราคาไม่รวม VAT)

สนใจทำกับ BMU
รับทำบัญชี by BMU
รับทำบัญชี by BMU

รับทำบัญชี

สำนักงานบัญชีบิลด์มีอัพ ให้บริการรับทำบัญชีครบวงจร โดยเจ้าหน้าที่ผู้เชียวชาญ ปัจจุบันดูแลบัญชีมากกว่า 300 บริษัท
ราคาเริ่มต้น 3,000 บาท (ราคาไม่รวม VAT)

สนใจทำกับ BMU

โปรแกรมที่ใช้ในการรับทำบัญชี

          โปรแกรมบัญชีที่เราเลือกใช้รับทำบัญชี คือโปรแกรมบัญชี PEAK เนื่องจากเป็นโปรแกรมบัญชีออนไลน์ 100% สามารถทำงานได้ทุกที่ ทุกเวลา สามารถดูงบกำไรขาดทุน งบแสดงฐานะการเงิน งบกระแสเงินสด และงบทดลองได้แบบออนไลน์เรียลไทม์
          สำนักงานบัญชี BMU ของเราเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นกับโปรแกรมบัญชี PEAK และได้รับรางวัล Gold Partner Awards จากโปรแกรมบัญชี PEAK 2 ปีซ้อน (ปี 2565 และปี 2566) และรางวัล Accounting Stars Podcast ในปี 2567

 

รูปรางวัลของ BMU

รูปรางวัล BMU ที่ได้รับจาก Peak

รูปภาพรายรับ by BMU

รูปตัวอย่างการดูภาพรวมรายรับและรายจ่ายในโปรแกรมบัญชี Peak


บริการรับทำบัญชีจาก BMU

 

ผังการทำงาน BMU

ขั้นตอนการทำบัญชีกับ BMU

 

ขั้นตอนการทำงานในการรับทำบัญชี

1.ในฝั่งรายรับ บริษัท (ลูกค้าของทาง BMU) จะเป็นผู้ออกเอกสารให้กับลูกค้าของบริษัทเองในระบบโปรแกรมบัญชี PEAK เช่น ใบแจ้งหนี้ ใบส่งของ ใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษี เป็นต้น เมื่อออกเอกสารแล้วข้อมูลก็จะถูก Auto บันทึกบัญชีเข้าโปรแกรมบัญชี PEAK

2.ในฝั่งรายจ่าย บริษัทจะถ่ายรูปหรือแสกนเอกสารค่าใช้จ่ายเข้ามาในระบบ NAS (ระบบที่เอาไว้ใช้จัดเก็บข้อมูล)

3.พนักงานของ BMU จะทำการตรวจสอบเอกสารรายจ่ายที่อัพโหลดเข้ามาในระบบ NAS ว่าเอกสารถูกต้อง หลังจากนั้นก็จะบันทึกรายจ่ายเข้าระบบ โปรแกรมบัญชี PEAK

4.หลังจากบันทึก รายรับ และ รายจ่าย ของทั้งเดือนเข้าไปเรียบร้อยแล้ว พนักงาน BMU จะแจ้งให้บริษัทช่วยส่ง Bank statement มาให้ เพื่อนำมากระทบยอดกับบัญชีเงินฝากธนาคารที่ทางเราได้บันทึกบัญชีรายรับรายจ่ายไว้ หากกระทบยอดไม่ตรงก็จะต้องติดตามสอบถามผลต่างว่าเกิดจากอะไร และแก้ไขให้ถูกต้อง เพื่อให้ข้อมูลการรับทำบัญชีนั้นถูกต้องที่สุด

5.เมื่อข้อมูลใน Bank statement ตรงกับบัญชีเงินฝากธนาคารแล้ว พนักงานบัญชี BMU ก็จะสรุปข้อมูลการภาษีให้แก่หัวหน้าบัญชี BMU ตรวจสอบก่อน เพื่อดูว่าภาษีที่จะนำส่งในแต่ละเดือนนั้นถูกต้องหรือไม่

6.หากหัวหน้าบัญชี BMU ตรวจสอบแล้วไม่มีข้อมูลแก้ไข พนักงานบัญชี BMU ก็จะดึงข้อมูลจากโปรแกรมบัญชี PEAK เพื่อยื่นแบบภาษี และให้บริษัทชำระภาษีให้แก่กรมสรรพากรต่อไป

 

รูปกลุ่มทีมงาน BMU

รูปทีมงาน BMU

คลิป VDO แนะนำสำนักงานบัญชี BMU

kanokwanxpeak

 

ค่าบริการรับทำบัญชี 

ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับบริการทางด้านบัญชีจะมีอยู่ 3 ส่วนคือ

1.ค่าบริการรับทำบัญชีรายเดือน ราคาจะขึ้นอยู่กับ ลักษณะธุรกิจ ปริมาณเอกสาร ยอดรายได้ และจำนวนลูกจ้างของกิจการ ค่าบริการเริ่มต้นที่ 3,000 บาทต่อเดือน (ไม่รวม Vat)

2.ค่าปิดงบการเงิน จะเรียกเก็บปีละครั้งตอนเดือน 12 ที่ปิดงบการเงิน ปีละ 1,000 บาท (ไม่รวม Vat) (ในส่วนนี้จะเป็นค่าประสานงานกับผู้ตรวจสอบบัญชีในการปิดงบการเงิน / ค่านำส่งงบการเงินกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า / ค่ายื่นแบบนำส่งภาษีเงินได้นิติบุคคลกับกรมสรรพากร)

3.ค่าตรวจสอบบัญชี เป็นค่าจ้างผู้ตรวจสอบบัญชี ที่มาเซ็นงบการเงินให้แก่บริษัท ซึ่งจะเรียกเก็บปีละ 1 ครั้ง

 

ค่าใช้จ่ายในการทำบัญชีกับ BMU

อบรมการใช้งานโปรแกรมและวางแผนการรับทำบัญชี

          หากท่านมาทำบัญชีกับเรา ไม่ต้องกลัวว่าจะใช้โปรแกรมบัญชี PEAK ไม่เป็น หรือใช้ระบบรับส่งข้อมูล (NAS) ไม่เป็น เนื่องจากทางเราจะมีการจัดประชุมออนไลน์ เพื่ออบรมการใช้โปรแกรมกับหัวหน้าทีมบัญชี โดยไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หากบริษัทมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้โปรแกรมสามารถติดต่อสอบถามทางเราได้ตลอดเวลา

 

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการรับทำบัญชี

          ผู้ทำบัญชี คือ ผู้ที่นำเอกสารของกิจการ ทั้งเอกสารในฝั่งรายรับ และรายจ่าย นำมาบันทึกบัญชี ยื่นภาษี และปิดงบการเงินให้แก่บริษัท ผู้ทำบัญชีจะต้องได้รับอนุมัติจากสภาวิชาชีพบัญชี และจะต้องเก็บชั่วโมงอบรมความรู้ทางวิชาชีพอย่างน้อย 12 ชั่วโมงต่อปี
          ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต คือ ผู้ตรวจสอบและเซ็นรับรองงบให้แก่กิจการ กิจการจึงจะสามารถนำงบการเงินไปยื่นกับทางหน่วยงานราชการได้ (กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และ กรมสรรพากร) ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตจะต้องได้รับอนุมัติจากสภาวิชาชีพบัญชี และจะต้องเก็บชั่วโมงอบรมความรู้ทางวิชาชีพอย่างน้อย 40 ชั่วโมงต่อปี