คำถามแรก ๆ ที่ผู้ประกอบการมักสงสัยเมื่อต้องการยกระดับธุรกิจคือ “การจดทะเบียนบริษัทใช้เงินเท่าไหร่” เพราะการเตรียมงบประมาณให้พร้อม ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญที่จะทำให้การเริ่มต้นธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่น และไม่มีปัญหาตามมา วันนี้ Build Me Up Consultant ได้รวบรวมข้อมูลค่าใช้จ่ายทั้งหมดมาให้ เพื่อให้คุณวางแผนได้อย่างแม่นยำและครบถ้วนกัน
จดทะเบียนบริษัท ใช้เงินเท่าไหร่
งบประมาณจะแตกต่างกันไปตามขนาดและประเภทของธุรกิจ เพราะต้องรวมเงินทุนที่ต้องใส่ในบริษัทและค่าบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าไปด้วย แต่หากจะอ้างอิงเฉพาะที่บังคับให้ชำระกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (ทุนจดทะเบียนไม่เกิน 5 ล้านบาท) จะมีตัวเลขโดยประมาณ ดังนี้
- ค่าธรรมเนียมจดทะเบียน (รวมหนังสือบริคณห์สนธิและจัดตั้งบริษัท) : 5,500 บาท
- ค่าอากรแสตมป์และใบสำคัญ : 300 บาท
- ค่าหนังสือรับรองและรับรองสำเนาเอกสาร : ประมาณ 500 บาท
- รวมค่าใช้จ่ายเบื้องต้น (ยื่นแบบกระดาษ) : ประมาณ 6,300 บาท
ค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนบริษัท แบ่งเป็นกี่ส่วน มีอะไรบ้าง
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน เราสามารถแบ่งค่าใช้จ่ายในการเปิดบริษัทออกเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ ที่ผู้ประกอบการทุกคนต้องเจอ ซึ่งแต่ละส่วนก็มีความสำคัญแตกต่างกันไป ดังนี้
1. ค่าธรรมเนียมภาครัฐ (DBD) ที่ต้องจ่าย
ส่วนนี้คือค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระให้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) โดยตรง ซึ่งเป็นตัวเลขมาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด ถือเป็นหัวใจของจดทะเบียนบริษัทในราคาที่ทุกคนต้องจ่าย ประกอบด้วยค่าธรรมเนียมจดทะเบียนบริษัท ค่าหนังสือบริคณห์สนธิ และค่าอากรแสตมป์ต่าง ๆ
2. เงินทุนจดทะเบียน (Paid-up Capital)
นี่คือส่วนที่คนมักเข้าใจผิดว่าเป็นค่าใช้จ่าย แต่จริง ๆ แล้วคือเงินทุนของบริษัทเอง ที่ผู้ถือหุ้นต้องนำมาชำระค่าหุ้น (อย่างน้อย 25% ของทุนจดทะเบียน) เพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนก้อนแรกของกิจการ เช่น ค่าเช่าออฟฟิศ ค่าจ้างพนักงาน เงินส่วนนี้ไม่ได้หายไปไหน แต่จะอยู่ในบัญชีธนาคารของบริษัท
3. ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ และค่าบริการวิชาชีพ
เป็นค่าใช้จ่ายเสริมที่อาจเกิดขึ้นระหว่างกระบวนการ เช่น ค่าทำตรายางบริษัท (ถ้ามี) หรือค่าบริการของสำนักงานบัญชีในการดำเนินการจดทะเบียนให้ ซึ่งเป็นทางเลือกที่ช่วยลดความซับซ้อนและประหยัดเวลาของผู้ประกอบการได้มาก
ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนบริษัท
นอกเหนือจากค่าใช้จ่ายหลักแล้ว การจดทะเบียนบริษัทอาจมีราคาเปลี่ยนแปลงได้ตามปัจจัยหลายอย่างที่แตกต่างกันไปในแต่ละธุรกิจ เช่น
- ทุนจดทะเบียน : แม้ค่าธรรมเนียม DBD จะค่อนข้างคงที่ แต่ทุนจดทะเบียนที่สูงอาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือและแผนการเงินโดยรวม
- ประเภทธุรกิจ : ธุรกิจบางประเภทอาจต้องมีการขอใบอนุญาตพิเศษ ซึ่งจะมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
- การจ้างผู้เชี่ยวชาญ : ค่าบริการของสำนักงานบัญชีจะแตกต่างกันไปตามขอบเขตของงาน
- การมีผู้ถือหุ้นต่างชาติ : อาจมีขั้นตอนและเอกสารที่ซับซ้อนขึ้น ทำให้มีค่าใช้จ่ายด้านบริการเพิ่มขึ้น
วิธีประหยัดค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนบริษัท
สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการควบคุมงบประมาณในการเริ่มต้น มีหลายวิธีที่ช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายและได้จดทะเบียนบริษัทราคาที่คุ้มค่าที่สุด ได้แก่
- เตรียมเอกสารให้พร้อม : การเตรียมข้อมูลและเอกสารให้ครบถ้วนในครั้งเดียว จะช่วยลดโอกาสที่จะต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการแก้ไข
- ใช้บริการจากมืออาชีพ : Build Me Up Consultant มีบริการจดทะเบียนบริษัทออนไลน์แบบครบวงจรที่รวมค่าบริการและค่าธรรมเนียมไว้แล้ว ทำให้คุณควบคุมงบประมาณได้ง่ายและโปร่งใส
ค่าจดทะเบียนบริษัทต่างจากงบเปิดบริษัทอย่างไร
ค่าจดทะเบียน คือค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางเอกสารกับภาครัฐโดยตรง แต่ “งบเปิดบริษัท” คือภาพรวมของเงินทุนทั้งหมดที่ต้องใช้ในการเริ่มต้นธุรกิจ ซึ่งจะรวมถึงค่าเช่าออฟฟิศ ค่าการตลาด เงินเดือนพนักงานในช่วงแรก และเงินทุนหมุนเวียนอื่น ๆ ด้วยนั่นเอง
ตัวอย่างการเปิดบริษัทขนาดเล็ก ต้องเตรียมเงินประมาณเท่าไหร่
เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น ลองมาดูตัวอย่างการคำนวณงบประมาณสำหรับบริษัท SME ขนาดเล็ก ที่มีทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท
- ค่าธรรมเนียม DBD (จดออนไลน์) : ประมาณ 5,000 – 6,000 บาท
- เงินทุนชำระค่าหุ้น (25%) : 250,000 บาท (เงินส่วนนี้จะเข้าบัญชีบริษัท)
- ค่าบริการจดทะเบียน (ถ้าจ้าง) : เริ่มต้นที่ประมาณ 10,000 บาท (ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ)
- ค่าใช้จ่ายอื่นๆ (ตรายาง) : ประมาณ 500 บาท
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการเปิดบริษัท
เงินจดทะเบียนบริษัทขั้นต่ำเท่าไหร่
ตามกฎหมายแล้ว ทุนจดทะเบียนขั้นต่ำสามารถเริ่มได้ที่ 10 บาท (ผู้ถือหุ้น 2 คน, หุ้นละ 5 บาท) แต่ในทางปฏิบัติ การจดทะเบียนด้วยทุนที่ต่ำเกินไปอาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ ส่วนใหญ่นิยมเริ่มต้นที่ 100,000 บาท หรือ 1,000,000 บาท
ทุนจดทะเบียนบริษัท 1 ล้านถือว่าเยอะไหม
สำหรับธุรกิจ SME ทั่วไป ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาทถือเป็นตัวเลขมาตรฐานที่ได้รับความนิยมและสร้างความน่าเชื่อถือในระดับที่ดี ไม่ได้ถือว่าเยอะหรือน้อยเกินไป แต่สำหรับธุรกิจขนาดใหญ่หรืออุตสาหกรรมที่ต้องใช้เงินทุนสูง อาจต้องใช้ทุนจดทะเบียนที่มากกว่านี้
รายได้เท่าไหร่ควรเปิดบริษัท
ไม่มีกฎเกณฑ์เรื่องรายได้ที่ตายตัว แต่โดยทั่วไปจะพิจารณาจาก “กำไร” หากธุรกิจของคุณมีกำไรสุทธิต่อปีเกิน 750,000 – 1,000,000 บาท การจดทะเบียนเป็นบริษัทจะช่วยประหยัดภาษีได้มากกว่าการเสียภาษีในรูปแบบบุคคลธรรมดา
วางแผนจดทะเบียนบริษัทให้ไม่ปวดหัวกับ Build Me Up Consultant
การวางแผนเรื่องเปิดบริษัทใช้เงินเท่าไหร่ มีรายละเอียดค่อนข้างมากที่ต้องพิจารณา หากคุณไม่อยากปวดหัวกับตัวเลขและขั้นตอนที่ยุ่งยาก หรือกังวลเรื่องจดทะเบียนบริษัทในราคาที่ไม่แน่นอน ให้ Build Me Up Consultant สำนักงานบัญชีดิจิทัลเป็นผู้ช่วยดูแล ติดต่อสอบถามบริการเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0925863663 , 021245303 Facebook : Build Me Up Consultant Line : @bmu001