สารบัญ
- เลขประจำตัวผู้เสียภาษีคืออะไร?
- ความสำคัญของเลขประจำตัวผู้เสียภาษี
- เลขประจำตัวผู้เสียภาษีหาได้จากที่ไหน (กรณีบุคคลธรรมดา)?
- เลขประจำตัวผู้เสียภาษีหาได้จากที่ไหน (กรณีนิติบุคคล)?
- สรุป
เลขประจำตัวผู้เสียภาษีคืออะไร?
เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า เลขประจำตัวผู้เสียภาษี คือ หมายเลขเฉพาะที่กรมสรรพากรกำหนดขึ้น เพื่อใช้ในการระบุตัวตนของผู้ที่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร
ความสำคัญของเลขประจำตัวผู้เสียภาษี
เลขประจำตัวผู้เสียภาษีมีความสำคัญหลายประการดังนี้
- ใช้ระบุตัวตน: ใช้ในการระบุตัวตนของผู้เสียภาษีเมื่อทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาษี เช่น การยื่นแบบแสดงรายการภาษี การชำระภาษี การขอคืนภาษี เป็นต้น
- ใช้ติดตามข้อมูลภาษี: กรมสรรพากรจะใช้เลขนี้ในการจัดเก็บและติดตามข้อมูลการเสียภาษีของผู้เสียภาษี
- ใช้ในการทำธุรกรรม: เลขนี้จำเป็นสำหรับการทำธุรกรรมบางประเภทนอกเหนือจากเรื่องของการเสียภาษี ยกตัวอย่างเช่น การเปิดบัญชีธนาคาร การจดทะเบียนธุรกิจต่างๆ การทำสัญญาทุกประเภท และอื่นๆอีกมากมาย
- ใช้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี: เลขนี้สามารถใช้ในการแสดงตนเพื่อขอรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีต่างๆ เช่น โครงการลดหย่อนภาษีต่างๆที่ประกาศโดยรัฐบาล
เลขประจำตัวผู้เสียภาษีหาได้จากที่ไหน (กรณีบุคคลธรรมดา)?
หลายๆคนที่เป็นบุคคลธรรมดามักสงสัยว่าเลขประจำตัวผู้เสียภาษีหาได้จากไหน คำตอบก็คือ เลขบัตรประชาชน ของคุณนั่นเองครับ ลองดูตัวอย่างตามนี้
เลขตามบัตรประชาชนของเราที่มี 13 หลัก นั่นคือ เลขประจำตัวผู้เสียภาษีนั่นเอง
เลขประจำตัวผู้เสียภาษีหาได้จากที่ไหน (กรณีนิติบุคคล)?
หลายๆคนที่เป็นนิติบุคคลมักสงสัยว่าเลขประจำตัวผู้เสียภาษีหาได้จากไหน คำตอบอยู่ในหนังสือรับรองของนิติบุคคล เลขทะเบียนนิติบุคคลคือเลขเดียวกับเลขประจำตัวผู้เสียภาษี เราลองมาดูตัวอย่างกัน
เลขทะเบียนนิติบุคคลที่มี 13 หลักตามที่ระบุในหนังสือรับรอง นั่นคือ เลขประจำตัวผู้เสียภาษีนั่นเอง
สรุป
เลขประจำตัวผู้เสียภาษีของบุคคลธรรมดา คือ เลข 13 หลักที่ระบุตามบัตรประชาชน ส่วนเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของนิติบุคคล คือ เลขเดียวกันกับเลขทะเบียนนิติบุคคลที่ระบุเอาไว้ในหนังสือรับรองของบริษัท หรือ ห้างหุ้นส่วน หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกท่านนะครับ
I all the time used to study piece of writing
in news papers but now as I am a user of net therefore
from now I am using net for content, thanks to
web.